เอเอฟพี - ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (4) เมินความพ่ายแพ้ของพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้ว่าการ 2 มลรัฐใหญ่ ในสหรัฐฯ ระบุเป็นการต่อสู้ระดับท้องถิ่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา หลังผู้เชี่ยวชาญชี้ชัยชนะของรีพับลิกัน ส่งสัญญาณเตือนว่าผู้มีสิทธื์เริ่มเอือมระอาผู้นำรายนี้
ความพ่ายแพ้รีพับลิกันในศึกชิงตำแหน่งผู้ว่าการมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ และ เวอร์จิเนีย นับเป็นความผิดหวัง รอเบิร์ต กิบบ์ส โฆษกทำเนียบขาวยอมรับ แต่ก็ชี้ว่ามันไม่ได้สะท้อนถึงระดับแห่งเสียงสนับสนุนที่มีต่อโอบามา ซึ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อปีก่อน
“ข้อมูลจากการชิงชัยผู้ว่าการรัฐแสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมาลงคะแนนเลือกผู้สมัคร 2 คน และพูดถึงกันในประเด็นที่เป็นท้องถิ่นอย่างมาก ซึ่งไม่เกี่ยวกับกับท่านประธานาธิบดี” เขากล่าว “หากคุณได้ดูผลเอ็กซิตโพล ที่ชี้อย่างแน่ชัดว่าประชาชนออกมาลงคะแนนในประเด็นท้องถิ่น ไม่ใช่ออกเสียงเพื่อสนับสนุนหรือต่อต้านประธานาธิบดี”
ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตของโอบามา พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์และ เวอร์จิเนีย ในวันอังคาร (3) โดยผลในมลรัฐเวอร์จิเนียที่ รอเบิร์ต “บ็อบ” แม็คดอนเนลล์ ผู้สมัครวัย 55 ปี จากพรรครีพับลิกัน สามารถเอาชนะตัวเต็งอย่างวุฒิสมาชิก รอเบิร์ต เครห์ ดีดส์ จากฝั่งเดโมแครต ไปได้ ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 59 ต่อ 40
ในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่ “แชมป์เก่า” อย่างผู้ว่าการรัฐ จอน สตีเวนส์ คอร์ไซน์ แห่งพรรคเดโมแครต มีอันต้องพ่ายแพ้แก่นักการเมืองหนุ่ม วัย 47 ปีอย่าง คริส เจมส์ คริสตี ของรีพับลิกัน ด้วยคะแนนขาดลอยร้อยละ 61 ต่อ 38 ถือเป็น “ข่าวร้ายอันน่าพรั่นพรึง” สำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี จนได้เป็นผู้นำผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เมื่อ 1 ปีก่อนหน้านี้
กิบบ์ส ยอมรับว่า ประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งช่วย 2 ผู้สมัครจากเดโมแครตหาเสียง รู้สึกผิดหวังที่ จอน คอร์ไซน์ เพื่อนสนิทของเขาไม่ได้เป็นผู้ชนะในนิวเจอร์ซีย์ มลรัฐที่เดโมแครตมีฐานเสียงอันแข็งแกร่ง
สถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งทั้งในมลรัฐเวอร์จิเนียและนิวเจอร์ซีย์เมื่อวันอังคาร (3) โดยพบว่า ถึงแม้ชาวเวอร์จิเนีย ร้อยละ 51 และ ชาวนิวเจอร์ซีย์ ร้อยละ 57 จะยังคงให้โอบามา “สอบผ่าน” ในการทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดี หลังจากชนะเลือกตั้งเมื่อ 1 ปีที่แล้ว แต่ชาวเวอร์จิเนียร้อยละ 85 และร้อยละ 90 ของผู้ออกเสียงในนิวเจอร์ซีย์ กำลังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีหน้า และไม่แน่ใจว่าโอบามาและพรรคเดโมแครตจะมีมาตรการแก้ปัญหาที่เหมาะสมหรือไม่
หลังทราบผลเลือกตั้ง รอสส์ เบเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองอเมริกันจากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ในนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า “ความพ่ายแพ้ในเวอร์จิเนียและนิวเจอร์ซีย์ อันเป็นฐานเสียงสำคัญที่มีส่วนช่วยให้โอบามาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างถล่มทลายเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นเรื่องที่พลิกความคาดหมายอย่างยิ่ง เป็นการบ่งชี้ถึงอารมณ์ของชาวอเมริกันในยามนี้ที่กระแสโอบามาฟีเวอร์เริ่มอ่อนกำลังลง และเป็นสัญญาณเตือนต่อโอบามาและพวกเดโมแครตทั้งหลายให้เร่งสร้างผลงานก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสกลางเทอมในปีหน้าได้เป็นอย่างดี”
ขณะที่ เอริค ไอแวน แคนเตอร์ ส.ส.พรรครีพับลิกัน จากมลรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นแกนนำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอเมริกัน หันมาเทคะแนนให้ผู้สมัครจากฝั่งรีพับลิกัน คือ ความไม่พอใจต่อการที่โอบามาและรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเดโมแครต เอาเงินภาษีของชาวอเมริกันที่กำลังทนทุกข์จากพิษเศรษฐกิจไปอุ้ม “ภาคการเงินอันฟอนเฟะ” ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตในครั้งนี้ รวมทั้งความไม่พอใจต่อความล้มเหลวของโอบามาในการผลักดันการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ และความเบื่อหน่ายต่อการดึงดันทำ “สงครามที่ไร้ค่า” ในอัฟกานิสถานและอิรัก ที่ต้องแลกมาด้วยข่าวความสูญเสียของทหารอเมริกันเป็นรายวัน