เอเจนซี – หนังสือพิมพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงาน ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ใช้เงินส่วนตัว ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมากกว่านักการเมืองคนใดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยจนถึงวันศุกร์ (23) ที่ผ่านมา ควักเงินไปแล้วกว่า 85 ล้านดอลลาร์ ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่
นิวยอร์กไทมส์ รายงานโดยอ้างสถิติการหาเสียงที่เพิ่งเปิดเผยล่าสุดว่า บลูมเบิร์กกำลังใช้จ่ายเงินอยู่ระหว่าง 110-140 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ นั่นหมายถึงว่า มหาเศรษฐีรายนี้ใช้เงินไปมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ ในการลงสมัคร 3 ครั้ง เพื่อชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดในอเมริกา
ขณะที่ จอน คอร์ไซน์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ และอดีตประธานบริษัทโกล์ดแมน แซคส์ ใช้จ่ายเงินราว 130 ล้านดอลลาร์ ในการลงแข่งชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ 2 ครั้ง และวุฒิสมาชิก 1 ครั้ง ส่วน สตีฟ ฟอร์บส์ เจ้าของนิตยสารดัง ทุ่มเงินไป 114 ล้านดอลลาร์ในการลงชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2 ครั้ง ไทมส์เสริม
สำหรับความร่ำรวยมั่งคั่งของบลูมเบิร์กนั้นส่วนมากมาจากเครือบริษัทด้านสื่อ และข้อมูลข่าวสาร บลูมเบิร์ก แอลพี ซึ่งมีมุลค่าประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์ เขาใช้เงินจำนวนดังกล่าวในการสร้างรากฐาน ซึ่งไทมส์เรียกว่าเป็นความโดดเด่นทางการเงินที่ไม่มีใครเอาชนะได้ในการเข่งขัน
ด้าน วิลเลียม ซี.ธอมป์สัน คู่แข่งพรรคเดโมแครตของเขา ใช้เงินไปเพียง 6 ล้านดอลลาร์ในการเลือกตั้งเท่านั้น โดยโฆษกทีมหาเสียงของธมอป์สันเผยกับนิวยอร์กไทมส์ ในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การถลุงเงินของนายกเทศมนตรีนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ
ยิ่งไปกว่านั้น นิวยอร์กไทมส์ ยังระบุว่า เงินก้อนใหญ่ที่บลูมเบิร์กใช้จ่ายนั้นไปตกอยู่ที่การโฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์
ขณะที่เงินจำนวนเพียงเล็กน้อยไหลไปให้กับธุรกิจเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เช่น พิซซ่าเตาถ่านกูดเฟลลาส์บนเกาะสเตเทน และในเขตบรองซ์ ซึ่งในการหาเสียงของบลูมเบิร์กนั้นได้จ่ายค่าพิซซ่าให้กับกูดเฟลลาส์ไปเป็นเงิน 8,892 ดอลลาร์อย่างไม่เต็มใจ