xs
xsm
sm
md
lg

US หาวิธีปฏิรูปเงินเดือนผู้บริหารแบงก์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐมนตรีคลัง ทิโมธี ไกธ์เนอร์ของสหรัฐฯ น่าจะประกาศระเบียบใหม่ออกมาอย่างเร็วในสัปดาห์หน้า
เอเจนซี - ในขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังมองหาทางที่จะปฏิรูประบบค่าตอบแทนในภาคการธนาคาร ก็มีการเสนอแนวคิดใหม่ๆ ปรากฏขึ้นมา เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีให้ผลตอบแทนแก่พวกผู้บริหารแบงก์แบบเดิม ซึ่งยึดเอาการให้ตราสารอนุพันธ์ออปชั่นหุ้นเป็นตัวหลัก

รัฐมนตรีคลัง ทิโมธี ไกธ์เนอร์ของสหรัฐฯ น่าจะประกาศระเบียบใหม่ออกมาอย่างเร็วในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดกันว่าจะมีการจำกัดการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่บรรดาผู้บริหารของพวกธนาคารที่รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล นอกจากนั้น เขายังกำลังเดินหน้าปฏิรูประบบการให้เงินตอบแทนในอุตสาหกรรมธนาคารทั้งหมด เพื่อมิให้พวกผู้บริหารเกิดการมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้น หรือการเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ดังที่เคยเป็นมาในอดีต

ลูเชียน เบบชัค และ โฮลเกอร์ สปาแมนน์ ศาสตราจารย์ด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เสนอว่าการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้บริหารของธนาคาร ควรที่จะผูกติดกับสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร ไม่ใช่แค่หลักทรัพย์อย่างออปชั่นหุ้นเท่านั้น โดยทั้งสองคนบอกว่าหลักทรัพย์นั้นคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% สินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร

"หน่วยงานกำกับดูแลภาคการธนาคาร ควรจะติดตามตรวจสอบเรื่องผลตอบแทนของพวกผู้บริหารธนาคาร และป้องกันมิให้มีการทำข้อตกลงเรื่องนี้ในลักษณะกลายเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริหารระดับสูงสนใจแต่หลักทรัพย์ของธนาคารเท่านั้น ซึ่ง... (ราคาหลักทรัพย์นั้น)สามารถเพิ่มขึ้นได้โดยใช้ยุทธศาสตร์บางประการ ที่ในระยะยาวจะเป็นอันตรายต่อสินทรัพย์ที่เหลืออีก 95% ของทั้งธนาคาร" ทั้งสองคนเขียนในบทความที่กำลังจะมีการตีพิมพ์ในเร็ววันนี้

เบบชัคและสปาแมนน์ชี้ว่า บรรดานายแบงก์ควรจะได้รับค่าตอบแทนในรูปของสินทรัพย์ในความหมายที่กว้างกว่าเดิม เป็นต้นว่า ได้เป็นเงินฝากและตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์ด้วย เพื่อจะกระตุ้นให้พวกเขา "ระมัดระวังมากขึ้นต่อความเสี่ยงของการขาดทุนจากการเลือกใช้ยุทธศาสตร์ของพวกเขา"

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้แสดงความเห็นว่า การจ่ายค่าตอบแทนดังที่วอลสตรีทปฏิบัติอยู่ เป็นตัวผลักดันทำให้ธนาคารดำเนินธุรกิจแบบเสี่ยงมากเกินไป และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวิกฤตการเงินที่ได้ฉุดลากเอาเศรษฐกิจสหรัฐฯและโลกลงไปสู่ความทรุดต่ำครั้งรุนแรง

ยังไม่เป็นที่ชัดเจนนักว่าไกธ์เนอร์ ซึ่งเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันทางด้านเศรษฐกิจของโอบามาจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ แต่ก็มีการนำเสนอความคิดต่าง ๆออกมามากมาย เรื่องลดการให้ค่าตอบแทนลงมาใกล้ความพื้นฐานความเป็นจริงมากที่สุด

ซูซาน โอดอนเนลล์ กรรมการผู้จัดการของเพิร์ล ไมเยอร์สแอนด์ พาร์ทเนอร์ส ที่ปรึกษาทางด้านค่าตอบแทนพนักงานกล่าวว่า การใช้แรงจูงใจโดยให้ผลตอบแทนเป็นหุ้น ยังสามารถที่จะจัดทำในรูปที่จะผลักดันให้ผู้บริหารคิดวางแผนในระยะยาวได้ แต่แทนที่จะให้ตราสารอนุพันธ์ออปชั่นหุ้น ซึ่งมูลค่านั้นขึ้นอยู่กับว่าราคาหุ้นจริงๆขึ้นไปมากน้อยเท่าไร บริษัทควรจะตั้งเป้าหมายว่าจะนำเอารางวัลนี้ผูกกับเป้าหมายด้านผลประกอบการ หรือถือเป็นบำเหน็จที่จะจ่ายให้หลังเวลาผ่านไปหลายๆ ปี

ขณะเดียวกัน ระบบการวัดความสามารถในการทำงานของผู้บริหารก็จะต้องมีความสมดุลมากขึ้น โดยไม่ผูกพันดูกันเฉพาะราคาหุ้นเท่านั้น "ดิฉันคิดว่าเราควรจะวัดกันในหลายปัจจัย รวมทั้งสภาพคล่องและเงินทุนด้วย ซึ่งปัจจัยหลาย ๆอย่างไม่ใช่เรื่องใหญ่ในอดีต แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว" เธอกล่าว

บริษัทที่กำลังมองหาแนวคิดใหม่ ๆในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้บริหาร ยังอาจจะดูตัวอย่างจาก บรรษัทการเงินสหกรณ์สาธารณูปโภคภาคชนบทแห่งชาติ (National Rural Utilities Cooperative Finance Corp) อันเป็นสหกรณ์ที่ไม่หวังกำไรที่ตั้งอยู่ในเมืองเฮิร์นดอน มูลรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งให้โบนัสพนักงานโดยผูกกับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท

หน่วยงานแห่งนี้มีหน้าที่ให้เงินกู้แก่การก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆในเขตชนบท เหตุที่เลือกใช้อันดับความน่าเชื่อถือเป็นฐานในการคิดโบนัส ก็เพราะบริษัทต้องพึ่งพาตลาดทุนและต้นทุนดอกเบี้ยต่ำอย่างมากนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น