เผยสหรัฐฯ เตรียมเสนอ กม.ใหม่ให้ยึดบริษัทใกล้เจ๊งง่ายขึ้น

เอเอฟพี – หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ เผย พันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดี บารัค โอบามา เตรียมเสนอกฎหมายฉบับใหม่ต่อสภาคองเกรส ที่จะช่วยให้รัฐบาลเข้าควบคุมสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา และเห็นว่าใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยให้ล่มไป ได้ง่ายขึ้น

นิวยอร์กไทมส์ รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล ว่า กฎหมายดังกล่าวจะถูกนำเสนอภายในสัปดาห์นี้ โดย บาร์นีย์ แฟรงก์ ประธานคณะกรรมการช่วยเหลือด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎร หลังเจ้าหน้าที่ในกระทรวงการคลังได้ปรึกษาหารือกันเพิ่มเติมแล้ว

รายงานข่าวระบุว่า กฎหมายฉบับนี้จะทำให้รัฐบาลโยนคณะบริหารของบริษัทการเงินออกไป กำจัดผู้ถือหุ้น และเปลี่ยนเกณฑ์การกู้ยืมของสถาบันการเงินที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวยังให้ข้อสังเกตว่า ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีการคลัง กำลังวางแผนที่จะให้การรับรองการเปลี่ยนแปลงคำให้การต่อคณะกรรมการความช่วยเหลือด้านการเงิน ในวันพฤหัสบดี (29) นี้ด้วย

ขณะที่แผนของทำเนียบขาว ที่ร่างมาจนถึงปัจจุบันนี้ จะทำให้บริษัทการเงินใหญ่ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างมากนั้นยังคงอยู่ต่อไป โดยจะบีบให้สถาบันเหล่านั้นถือเงินทุนสำรองไว้มากขึ้น และจะทำให้พวกเขากู้ยืมทรัพย์สินได้ยากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น แผนดังกล่าวยังเรียกร้องให้บริษัทเหล่านั้นมีแบบแผนขั้นตอนการแก้ไขวิกฤตการณ์ของตัวเองไว้ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลชี้ว่า ควรต้องเปิดเผยให้ประชาชนทราบล่วงหน้าก่อน

ไมเคิล บาร์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง ฝ่ายสถาบันการเงินชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะวางกฎระเบียบการตลาดของบริษัทใหญ่ๆ และมีส่วนเชื่อมถึงกัน และ 1 ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือ กระบวนการดังกล่าวจะไม่ได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหนี้ แต่เป็นรัฐบาลแทน

ด้านผู้ควบคุม และนักเศรษฐศาสตร์บางคน เสนอว่า แผนของรัฐบาลยังช่วยเหลือได้ไม่เพียงพอ โดยระบุว่า รัฐบาลควรพิจารณาแยกธนาคารใหญ่ และบริษัทเงินทุนก่อนที่สถาบันเหล่านั้นจะล่ม หรืออย่างน้อยก็วางข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับกิจการการค้าขายแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลปฏิเสธเรื่อยมา