เอเจนซี - ราคาน้ำมันทะยานเหนือ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร(13) หลังโอเปกปรับเพิ่มประมาณการณ์อุปสงค์พลังงานโลกปีหน้าและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ขณะที่วอลล์สตรีท ปรับลดหลังรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย
องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นถูกคาดหมายว่าจะเป็นตัวกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่น่าจะเพิ่มขึ้นอีก 700,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับเกือบ 85 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว โอเปก คาดคะเนว่าอุปสงค์พลังงานโลกในปี 2010 จะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน
การปรับแก้ตัวเลขประมาณการณ์ทางอุปสงค์ของโอเปก สอดคล้องกับสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) และทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ที่ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2010 ไปก่อนหน้าแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ ปิดที่ 74.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่เบรนต์ลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 72.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร(13) ปิดผสมผสาน สืบเนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ไม่เป็นไปตามคาดหมาย กลบผลกระทบในทางบวกจากกรณีเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ในภาคเทคโนโลยี
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 12.32 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,873.48 ทำ แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.75 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,139.89 จุด เอสแอนด์พี ลดลง2.64 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,073.55 จุด
ตลาดแสดงปฏิกริยาตอบรับในทางลบต่อผลประกอบการของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่แม้บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่แห่งนี้จะมีกำไรในไตรมาส 3 ราว 3.3 พันล้านดอลลาร์ ทว่ากลับมียอดขายไม่น่าประทับใจนัก โดยลดลงถึง 5.3 เปอร์เซ็นต์