เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันศุกร์(15) หล่นมาแตะระดับ 56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหตุผู้ซื้อมองในแง่ร้ายมากขึ้นต่อแนวโน้มอุปสงค์พลังงานโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่วอลล์สตรีทก็ปิดในแดนลบท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ดูไม่สดใสนัก
การดิ่งลงของตลาดทุนและดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ก็เป็นอีกสองปัจจัยที่ผลักให้มีแรงเทขายในตลาดน้ำมัน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ร่วงลง 2.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดิ่งลงจากสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน เหนือ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ร่วงลง 2.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงมีขึ้นหลังจาก 3 สถาบันพยากรณ์พลังงานชั้นนำของโลก -- สำนักงานพลังงานสากล(ไออีเอ) กับสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของ สหรัฐฯ (อีไอเอ)และโอเปก -- เมื่อเร็วๆนี้ปรับลดประมาณการอุปสงค์พลังงานโลกในปี 2009 ลงจากเดิม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(15) ปิดตัวในแดนลบ เหตุนักลงทุนระมัดระวังการลงทุนท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจอันเซื่องซึมและข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐฯได้อนุมัติอัดฉีดเงินเข้าสู่ภาคธุรกิจประกันภัย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 62.68 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,268.64 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.19 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 882.88 จุด แนสแดก ลดลง 9.07 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,680.17 จุด