เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 ราย และไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 3 แสนชีวิต หลังพายุโซนร้อน “เกศนา” พัดถล่มฟิลิปปินส์ ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองหนักสุดในรอบกว่า 4 ทศวรรษในกรุงมะนิลา เจ้าหน้าที่หลายคนเผยในวันนี้ (27)
เกิดฝนฟ้าคะนองอย่างหนักในกรุงมะนิลาและเขตปริมณฑล ต่อเนื่องนาน 9 ชั่วโมง ในวันเสาร์ (26) ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งท่วมพื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของเมืองหลวงแห่งนี้ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 12 ล้านคน
พายุฝนตกหนักทำให้บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังสูงถึง 20 ฟุต ชาวบ้านทั้งหมดต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคา ขณะที่รัฐบาลประกาศ “เหตุภัยพิบัติแห่งชาติ”
กิลเบอร์โต ทีโอโดโร รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 50 ราย และสูญหายอีก 21 คน
“นี่เป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น” ทีโอโดโรกล่าว
จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่อพยพผู้ประสบภัยออกมาได้มากกว่า 4,000 ราย แต่จำนวนมากยังคงติดค้างอยู่
ทีโอโดโรกล่าวต่อว่า พายุฝนฟ้าคะนองทำให้ประชากรไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 280,000 รายในกรุงมะนิลาและอีก 5 จังหวัดที่อยู่รอบนอก โดยผู้ประสบภัยมากกว่า 41,000 รายต้องเข้ามาอยู่ในศูนย์อพยพทั้งหมด 92 แห่ง
“เรายังคงเดินหน้าปฏิบัติการกู้ชีพ ควบคู่กับภารกิจบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่” ทีโอโดโรกล่าว
ขณะที่พายุฝนสงบลงชั่วคราว รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ออกคำเตือนว่า อาจเกิดอุทกภัยเพิ่มเติมในจังหวัดแถบภาคเหนือของประเทศ เนื่องจากระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นจนอาจเอ่อล้นออกมา