เอเอฟพี - ชาวอิหร่านส่วนใหญ่อยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หลัง 3 ทศวรรษของการเป็นปรปักษ์ อย่างไรก็ตาม ชาวอิหร่านยังไม่ไว้ใจประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำมะกัน ทั้งนี้จากผลสำรวจความเห็นล่าสุด
8 ใน 10 ของชาวอิหร่าน มองว่า ประธานาธิบดี มะห์มูด อะห์มาดิเนจัด เป็นผู้นำที่ชอบธรรม แม้จะเกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากผลสำรวจความเห็นของเวิลด์พับลิกโอพิเนียน (ดับเบิลยูพีโอ)
จากการสุ่มสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,003 คน จากทั่วประเทศอิหร่าน พบว่า 63 เปอร์เซ็นต์ ต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐฯ หลังทั้ง 2 ประเทศห่างเหินหมางเมินกันนับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามในปี 1979 โดยในจำนวนดังกล่าว มี 18 เปอร์เซ็นต์ เห็นชอบ “อย่างยิ่ง” และมีเพียง 27 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย
ขณะเดียวกัน ร้อยละ 60 บอกว่า สนับสนุน “การเจรจาอย่างเต็มรูปแบบและปราศจากเงื่อนไข” ระหว่างกรุงวอชิงตันกับเตหะราน ขณะที่ร้อยละ 30 คัดค้าน
อย่างไรก็ตาม แม้ บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ จะพยายามยื่นไมตรีให้กับโลกมุสลิม แต่มีชาวอิหร่านเพียง 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เชื่อว่า ผู้นำมะกันเคารพอิสลาม แต่มากถึง 59 เปอร์เซ็นต์ไม่เชื่อเช่นนั้น
ขณะเดียวกัน 71 เปอร์เซ็นต์ของชาวอิหร่านที่ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า ไม่เคยหรือแทบไม่ตั้งความหวังว่า โอบามาจะ “ทำสิ่งถูกต้อง” ในการจัดการกับกิจการระหว่างประเทศ
ตัวเลขข้างต้นล้วนต่ำกว่าทั้ง 21 ประเทศที่ดับเบิลยูพีโอจัดสำรวจความคิดเห็น ในโครงการทัศนคติความเห็นด้านนโยบายต่างประเทศของมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์
ดับเบิลยูพีโอ ดำเนินการสุ่มสำรวจความคิดเห็นของชาวอิหร่าน ที่พูดภาษาฟาร์ซี ทางโทรศัพท์จากภายนอกประเทศ ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม-10 กันยายน โดยมีความผิดพลาดบวกลบไม่เกิน 3.1 เปอร์เซ็นต์