เอเอฟพี - ศาลสูงของศรีลังกาตัดสินจำคุกนักข่าวชาวทมิฬนาน 20 ปี โทษฐานสนับสนุนการก่อการร้ายของกบฏทมิฬ ท่ามกลางสื่อมวลชนและนักข่าวที่มาร่วมการพิจารณาคดีนี้อย่างล้นหลาม
ศาลศรีลังกาตัดสินว่า เจเอส ทิสไซนายากัม วัย 45 ปี นักข่าวของหนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทม์สฉบับท้องถิ่นและเป็นผู้ดำเนินการทำเว็บไซต์ Outreachsl.com ที่มีรายงานเน้นถึงความเคลื่อนไหวของกบฏแบ่่งแยกดินแดนพยัคฒ์ทมิฬอีแลม(แอลทีทีอี) มีความผิด 3 กระทงภายใต้กฎหมายป้องกันการก่อการร้ายของศรีลังกา(พีทีเอ) ซึ่งรวมถึงข้อหารับเงินจากกลุ่มกบฏ การสร้างความเกลียดชังผ่านงานเขียน และการเขียนรายงานเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ทิสไซนายากัม นับเป็นผู้สื่อข่าวคนแรกที่ถูกตัดสินโทษภายใต้กฎหมายพีทีเอที่มีมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนตกตะลึงกับการตัดสินครั้งนี้ รวมถึงระยะเวลาจำคุกที่ยาวนานมากด้วย
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยระบุในการกล่าวปาฐกถาเนื่องในวันเสรีภาพสื่อโลกเมื่อ วันที่ 1 พฤษภาคมว่า ทิสไซนายากัม เป็นตัวอย่างของนักข่าวที่แสดงให้เห็นว่า ถูกดำเนินคดีตามสิ่งที่เขาทำ ทั้งนี้ ทิสไซนายากัมถูกควบคุมตัวตั้งแต่ทางการเข้าจับกุมเขาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว แม้ว่าทั้งสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนนักสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา และตั้งข้อสงสัยว่า หลักฐานที่ระบุว่าเขารับเงินโดยทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกลุ่มกบฎทมิฬอาจจะเป็นของปลอม
การจับกุมและกักตัวเขาเกิดขึ้นทางกลางความกลัวของนักข่าวในศรีลังกา หลังจากมีนักข่าวหลายคนถูกฆ่าจากกลุ่มที่ยังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใด เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมามีบรรณาธิการซึ่งต่อต้านกลุ่มกบฏถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่หลายคนรอดชีวิตได้หวุดหวิด ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลศรีลังกาเผยว่า มีนักข่าว 3 คนถูกฆ่าตายและอีก 27 คนถูกทำร้ายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขของกลุ่มสิทธิมนุษยชนบอกว่า มีนักข่าวถูกฆ่าตายมากกว่านั้น คือ มากกว่า 12 คน
ทั้งนี้ กบฎชาวทมิฬเพิ่งพ่ายแพ้ต่อกองทัพศรีลังกาไม่กี่เดือนมานี้ หลังจากฐานที่มั่นสุดท้ายถูกยึดและหัวหน้าและแกนนำคนสำคัญถูกทหารศรีลังกาสังหาร ทำให้รัฐบาลศรีลังการประกาศยุติการสู้รบ ขณะที่องค์การสหประชาชาติระบุว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 80,000 -100,000 คน มีผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นราว 300,000 คน ซึ่งยังต้องอยู่ในค่ายอพยพของรัฐบาล
