เอเจนซี - การสู้รบครั้งใหม่ระหว่างทหารพม่าและชนกลุ่มน้อยติดอาวุธในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออันห่างไกล ทำให้มีชาวมีผู้อพยพข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศจีนแล้วประมาณ 10,000 คน นักเคลื่อนไหวและสื่อของทางการพม่าระบุวันนี้ (28)
กลุ่มสิทธิมนุษยชนซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯเผยว่า ในเดือนนี้ คนนับพันคนได้หนีออกจากเขตปกครองชนกลุ่มน้อยโกก้างในรัฐฉานของพม่า ไปยังมณฑลยุนนานของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัฐฉาน หลังจากเกิดการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยติดอาวุธโกก้างและทหารพม่า
กลุ่มรณรงค์สหรัฐฯเพื่อพม่าที่มีสำนักงานในวอชิงตันเผยโดยอ้างข้อมูลจากผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า การปะทะกันได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เท่ากับเป็นการปิดฉากของข้อตกลงหยุดยิง
ด้านเว็บไซต์ข่าว www.yunnan.cn ของมณฑลยูนนาน การสู้รบเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้ลี้ภัยทะลักเข้าจีน เว็บไซต์แห่งนี้รายงานเมื่อเช้าวันนี้ว่า มีผู้ลี้ภัยเข้ามาจีนถึงประมาณ 10 ,000 คน
เอเอฟพีรายงานว่า การอพยพลี้ภัยเริ่มขึ้น เมื่อทางการพม่าก็ได้ส่งทหารเข้าไปยังพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีนพวกนี้ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้เหลือแต่คนแก่อยู่ที่บ้าน
ด้านสื่อของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า ผู้มีสัญชาติพม่ายังคงไหลบ่าเข้าสู่ยูนนาน แต่ไม่ได้ให้ตัวเลข โดยพวกเขาตั้งค่ายอพยพชั่วคราวขึ้น โดยเจ้าหน้าทีจีนคอยช่วยเหลือและให้อาหาร
ตลอดจนการรักษาพยาบาล
นอกจากนี้ บรรณาธิการของสำนักข่าวฉานเฮอรัลเอเจนซี่ฟอร์นิวส์ยังเผยว่า มีรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธรัฐว้ายังได้เข้าร่วมกับกองกำลังติดอาวุธโกก้างแล้วด้วย โดยเขายังเตือนว่าชนกลุ่มน้อยอื่นอาจเข้าร่วมเพิ่มก็ได้
พม่าปกครองด้วยรัฐบาลทหารมาตั้งแต่ปี 1962 และได้เซ็นสัญญาหยุดยิงกับชนกลุ่มน้อยติดอาวุธแล้ว 17 กลุ่ม รายงานข่าวระบุว่า ก่อนการสู้รบจะปะทุขึ้น หลังจากกลุ่มๆ หนึ่งของกองกำลังโกก้าง หรือที่รู้จักกันในชื่อ "กองกำลังสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตยพม่า" ได้เข้าร่วมกับกองทัพรัฐบาลเข้าไปยึดครองเมืองหลวงของเขตปกครองโกก้าง ขณะที่อีกกลุ่มปฏิเสธทำตามคำสั่งของกองทัพรัฐบาลที่สั่งให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจ
ด้านเผิงจาเซิง ผู้นำกลุ่มกบฏโกก้างได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนในการเจรจาตกลงกันระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง