xs
xsm
sm
md
lg

IMFอัดฉีด$250,000ล.ให้ทั่วโลกสู้วิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุในวันพฤหัสบดี (13) ว่าจะอัดฉีดเงินพิเศษเอสดีอาร์ (Special Drawing Rights) จำนวน 250,000 ล้านดอลลาร์ มาจัดสรรให้กับกองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของสมาชิก 186 ประเทศ "เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจโลก" โดยเครื่องมือที่ว่านี้ไอเอ็มเอฟนำออกมาใช้น้อยครั้งมาก และครั้งนี้ก็เป็นการจัดสรรครั้งใหญ่สุดในรอบ 60 ปี

มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการมูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก ซึ่งกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ประเทศ (จี20) ได้ตกลงกันระหว่างการประชุมสุดยอดไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยกลุ่ม "จี20" ยังมีแผนจะเพิ่มเงินทุนของไอเอ็มเอฟขึ้นเป็นสามเท่าตัว ให้อยู่ที่ระดับ 750,000 ล้านดอลลาร์ด้วย

"การจัดสรรวงเงินในตะกร้าเงินเอสดีอาร์เป็นตัวอย่างสำคัญของการต่อสู้กับวิกฤตการเงินโลกด้วยความร่วมมือกันแบบพหุภาคี ซึ่งเป็นการสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อประเทศสมาชิกในยามที่มีปัญหาท้าทายเช่นนี้" ไอเอ็มเอฟระบุ

ทั้งนี้ คณะผู้ว่าการธนาคารซึ่งเป็นตัวแทนของชาติสมาชิกทั้งหมด ได้อนุมัติแผนการจัดสรรวงเงินพิเศษเอสดีอาร์เป็นจำนวนถึง 250,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งไอเอ็มเอฟมาราว 60 ปีเลยทีเดียว และจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม

เอสดีอาร์เป็นสินทรัพย์ของไอเอ็มเอฟที่อิงอยู่กับตะกร้าเงินตราต่างประเทศหลายสกุลด้วยกัน คือ ดอลลาร์ เยน ยูโร และปอนด์ โดยมีการคิดคำนวณกันเป็นรายวัน ไอเอ็มเอฟชี้แจงว่าสมาชิกอาจเลือกขายวงเงินเอสดีอาร์ที่ได้รับการจัดสรรให้นี้เป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ไปให้กับประเทศอื่นเพื่อแลกเป็นเงินสกุลแข็งเพื่อให้ปิดงบดุลการชำระเงินได้ หรืออาจเลือกเป็นฝ่ายซื้อเงินเอสดีอาร์เพิ่ม เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุนสำรองระหว่างประเทศของตนเสียใหม่ก็ได้

ไอเอ็มเอฟบอกอีกว่าเศรษฐกิจโลกนั้นกำลังเริ่มพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาแล้ว ทว่า การฟื้นตัวจะค่อยเป็นค่อยไปในขณะที่ระบบการเงินโลกก็ยังอยู่ในสภาพเปราะบาง

การจัดสรรวงเงินครั้งนี้จะส่งผลให้ประเทศสมาชิกได้รับเงินพิเศษเอสดีอาร์ เป็นจำนวนราว 74 เปอร์เซ็นต์ของโควตาของตนในกองทุนไอเอ็มเอฟ โดยที่โควตาของแต่ละประเทศสมาชิกจะมีเท่าใด ก็คำนวณโดยอิงอาศัยขนาดเศรษฐกิจของชาตินั้นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจโลก

แม้วงเงินก้อนโตที่สุดในการจัดสรรเงินพิเศษเอสดีอาร์ครั้งนี้จะตกไปอยู่กับประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าเนื่องจากมีสัดส่วนโควตาสูงกว่า โดยสหรัฐฯ จะได้ไปถึง 30.4 ล้านเอสดีอาร์หรือราว 47,300 ล้านดอลลาร์ ทว่าไอเอ็มเอฟเน้นว่า "เงินราว 100,000 ล้านดอลลาร์จะถูกจัดสรรไปให้กับประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ส่วนประเทศยากจนจะได้รับกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์"
กำลังโหลดความคิดเห็น