เอเอฟพี - กลุ่มคนร้ายปฏิบัติการปล้นธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์ของอิรัก ในช่วงรุ่งสางของวันอังคาร (28) สังหารตำรวจรักษาความปลอดภัย 8 นาย กวาดเงิน 3.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 130 ล้านบาท) หลบหนีไปอย่างลอยนวล
ตำรวจระบุว่าเหตุปล้นดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงที่ต้องการนำเงินไปใช้ก่อเหตุต่างๆด้วยความช่วยเหลือจากคนวงใน ขณะที่การปล้นไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายกับประตูและหน้าต่างของธนาคารอัล-ราฟิเดนในกรุงแบกแดดแต่อย่างใด
ศพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 8 นายถูกพบที่ห้องใต้ดินของธนาคารและอยู่ในสภาพถูกมัดมือไพล่หลัง มีเทปกาวปิดปากและแต่ละศพถูกยิงหนึ่งนัดบริเวณด้านหลังของศีรษะ
ตำรวจเปิดเผยต่อว่า คนร้ายได้ใช้หมอนสำหรับเก็บเสียงปืนขณะลงมือสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดย 7 คนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ขณะที่อีกคนยังคงสวมชุดเครื่องแบบ
“ปฏิบัติการนี้ลงมือโดยกลุ่มก่อการร้ายซึ่งขาดเงินสนับสนุนจากต่างชาติ...และพวกเขาต้องเริ่มมองหาแหล่งทุนภายใน อาทิปล้นธนาคารต่างๆ” เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ ณ ที่เกิดเหตุบอกกับเอเอฟพี
กองกำลังความมั่นคงของอิรักได้ปิดกั้นถนนสายต่างๆ ที่มุ่งสู่ธนาคาร ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจระดับสูงลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อดำเนินการสืบสวน
นักสืบรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่าเหตุการณ์นี้มีความเป็นไปได้อยู่ 2 อย่างคือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยแก่ธนาคารคอยช่วยเหลือคนร้ายทว่าถูกฆ่าปิดปากในภายหลัง หรืออีกกรณีคือมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารอีกกะหนึ่งหลอกให้เพื่อนร่วมงานเปิดประตูให้แก๊งวายร้ายนี้เข้าไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารในกะกลางคืนได้รับคำสั่งว่าห้ามเปิดประตูให้กับพนักงานธนาคารรายใดแม้ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ตาม
คนร้ายขโมยเงินที่ประกอบด้วยธนบัตรหน่วยสูง รวม 45,000 ล้านดินาร์ (3.8 ล้านดอลลาร์) แต่ทิ้งเงินราว 11,000 ล้านดินาร์ ที่เป็นเงินหน่วยเล็กๆ ไว้ ทั้งที่เงินจำนวน 56,000 ล้านดินาร์เพิ่งถูกโอนเข้าสู่ธนาคารแห่งนี้ได้เพียงหนึ่งวัน
ตู้เซฟของธนาคารที่มีความสูง 3 เมตรถูกเปิดออกโดยเครื่องเชื่อม ซึ่งกระบวนการดังกล่าวคาดว่าต้องใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากประตูของตู้เซฟมีความหนาถึง 20 เซนติเมตร
พนักงานธนาคารรายหนึ่งบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 08.00 น.) ขณะที่ตำรวจระบุว่า “ทุกอย่าง คนร้ายลงมืออย่างกับมืออาชีพ”
การปล้นครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เกิดความพยายามปล้นที่ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราแห่งหนึ่งในกรุงแบกแดดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน แต่ปล้นเงินไปไม่สำเร็จ ขณะที่รายงานข่าวเผยว่า แม้เหตุรุนแรงในอิรักจะน้อยลงอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่จำนวนการก่อเหตุปล้นกลับเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การปล้นธนาคารครั้งนี้ยังนับเป็นการปล้นธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศ โดยการปล้นธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดในอิรักเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2005 เมื่อกลุ่มคนร้ายบุกธนาคารราชีด ในเมืองรามาดี ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกราว 100 กิโลเมตร โดยครั้งนั้นคนร้ายได้ขังพนักงานแบงก์ไว้ในห้องหนึ่ง ก่อนเชิดเงินไป 13.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 460 ล้านบาท)
