xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจสหรัฐฯส่อเค้าซึมยาว ตัวเลขเลิกจ้างงานมิ.ย.พุ่งพรวด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวอเมริกันกำลังดูประกาศรับสมัครงานที่กองบริการจ้างงานของกระทรวงแรงงานมลรัฐนิวยอร์ก -ขณะที่อัตราการว่างงานทั่วประเทศพุ่งสูงขึ้นมาก ทำให้หางานยากขึ้นไปอีก
เอเจนซี – นายจ้างในสหรัฐฯลดการจ้างงานลงมากกว่าความคาดหมายในเดือนมิถุนายน ทำให้ตัวเลขอัตราว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.5 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดในรอบเกือบ 26 ปี ตอกย้ำถึงความเป็นไปได้ที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปด้วยความเชื่องช้าและยืดเยื้อ

รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี(2)ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิถุนายนลดลง 467,000 อัตรา มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในวอลสตรีทคาดการณ์ไว้ถึง 100,000 อัตรา และลดลงหมดทุกภาคธุรกิจที่สำคัญ

นับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐฯเดินเข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนธันวาคม 2550 ชาวอเมริกันสูญเสียตำแหน่งงานที่ไม่ใช่ภาคเกษตรกรรมไปแล้ว 6.5 ล้านอัตรา ขณะที่ตัวเลจอัตราว่างงานก็เพิ่มสูงขึ้นมาเป็นเกือบ 2 เท่าตัว

ข่าวร้ายเรื่องการจ้างงานนี้ ทำให้ราคาหุ้นในตลาดสหรัฐฯดิ่งลงอย่างรุนแรง ดัชนีดาวโจนส์ลดลงถึง 2.6 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลว่าการว่างงานที่ยังหนักหนาสาหัสเช่นนี้ น่าจะกระทบกระเทือนความเชื่อมั่นและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ดังนั้นโอกาสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจึงทำท่าจะมืดมัวลง

อัตราการว่างงานในสหรัฐฯเดือนมิถุนายน ที่พุ่งสูงขึ้นจาก 9.4 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคมนี้ นับเป็นอัตราสูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2527 นอกจากนั้น ในรายงานฉบับเดียวกันยังให้ตัวเลขซึ่งตอกย้ำถึงสภาพการจ้างงานอันอ่อนแอ นั่นคือ ชั่วโมงทำงานโดยเฉลี่ยใน 1 สัปดาห์ได้หดสั้นลงในเดือนที่แล้ว ขณะที่อัตราค่าจ้างก็ไม่เพิ่มขึ้นเลย

ผู้ประกอบการทางธุรกิจในสหรัฐฯ ได้หันมาลดการจ้างงานลงอย่างรุนแรง เพื่อการดำรงอยู่ของธุรกิจในภาวะที่ต้องเผชิญกับการดิ่งลงอย่างรุนแรงของอุปสงค์ของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี ความอ่อนแออย่างสาหัสในตลาดแรงงานเช่นนี้ ก็ทำท่าจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเริ่มต้นในไตรมาสนี้

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา พยายามกล่าวปลอบใจว่า ตัวเลขการจ้างงานเดือนมิถุนายน “ร้ายแรงน้อยกว่า” ตัวเลขการเลิกจ้างงานประจำเดือนในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยอมรับว่า เป็นข่าวที่ไม่น่าสบายใจนักสำหรับชาวอเมริกันที่ถูกเลิกจ้างงานหลายล้านคน

“ปัญหานี้สะสมเรื้อรังมาเป็นเวลาหลายปี และคงต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะพลิกฟื้นสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้” โอบามากล่าวระหว่างการแถลงข่าวในทำเนียบขาว

ตัวเลขการเลิกจ้างงานประจำเดือนในสหรัฐฯพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ระดับ 741,000 อัตรา จากนั้นก็ค่อย ๆ ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การทรุดตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปในอัตราที่เชื่องช้าลง

นอกจากตัวเลขเดือนมิถุนายนแล้ว รายงานของของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯยังได้ให้ตัวเลขการเลิกจ้างงานในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ปรับปรุงล่าสุดแล้ว โดยระบุว่า แต่ละเดือนมีอัตราการเลิกจ้างน้อยกว่าที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้ 8,000 อัตรา โดยตัวเลขการเลิกจ้างในเดือนพฤษภาคมถูกปรับลดลงเป็น 322,000 อัตรา ขณะที่ตัวเลขเดือนเมษายนถูกปรับลดลงเป็น 519,000 อัตรา

สำหรับทางยุโรป ก็ได้มีการแถลงข้อมูลตลาดแรงงานเมื่อวันพฤหัสบดีเช่นกัน โดยบอกว่า อัตราการว่างงานใน 16 ประเทศกลุ่มยูโรโซน ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ระดับ 9.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคม การที่ยูโรโซนซึ่งเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ก็ประสบปัญหารุนแรงด้านการว่างงานเช่นนี้ จึงยิ่งสร้างความกังวลให้แก่แนวโน้มการส่งออกของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐฯยังออกรายงานอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งบ่งชี้ว่า แนวโน้มเรื่องการว่างงานอาจจะกำลังผ่านจุดสูงสุดแล้ว และต่อจากนี้จะเริ่มผ่อนคลายลง

กล่าวคือ ตัวเลขผู้ยื่นขอเป็นครั้งแรกเพื่อรับสวัสดิการจากรัฐจากกรณีถูกเลิกจ้างงาน ได้ลดต่ำลงเป็นสัปาดห์แรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนั้น ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการจากการว่างงาน(ทั้งที่ยื่นครั้งแรกและที่ยื่นขอเพิ่มอีก) ก็ลดลงอยู่ที่ระดับ 6.7 ล้านคนเศษ ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของปีนี้ที่ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดต่ำลง

ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานในสหรัฐฯจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวภายในปีนี้ก็ตาม

แต่ คริส รัพคีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การเงิน แห่ง แบงก์ ออฟ โตเกียว/ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ในนิวยอร์ก ให้ความเห็นว่า หากสถานการณ์พัฒนาไปตามแนวโน้มที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็มีความเป็นไปได้สูง ที่ตัวเลขอัตราการว่างงานในสหรัฐฯจะสูงสุดที่ระดับ 9.5 เปอร์เซ็นต์
กำลังโหลดความคิดเห็น