เอเอฟพี/เอเจนซี - เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์แนสแดค ถูกพิพากษาจำคุก 150 ปีเมื่อวันจันทร์(29) ในความผิดฉ้อโกงต้มตุ๋นนักลงทุนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวอลล์สตรีท
“คำพิพากษาของศาลแห่งนี้ คือ เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ ควรถูกจำคุก 150 ปี” ผู้พิพากษา เดนนี ชิน กล่าว โดยคำพิพากษาดังกล่าวนับเป็นโทษขั้นสูงสุด แม้ว่าแมดอฟฟ์ได้กล่าวขอโทษต่อเหยื่อของเขา ณ ห้องพิจารณาคดีก็ตาม
“ผมทิ้งมรดกอันน่าอดสูไว้แก่ครอบครัวตนเอง ผมขอรับผิดชอบต่อความเจ็บปวดทั้งหลาย ผมคงมีชีวิตอยู่ด้วยสภาพที่ทุกข์ทรมาน” นักลงทุนผู้อื้อฉาววัย 71 ปีกล่าวขณะที่เขาต้องใช้ช่วงเวลาที่เหลือของชีวิตในเรือนจำ
แมดอฟฟ์ มองไปที่ผู้พิพากษาและกล่าวว่า “ผมขอโทษต่อเหยื่อของผม” จากนั้นเขาได้หันไปสบตากับเหยื่อหลายคนของเขา บางรายที่ต้องสูญเงินเก็บที่สะสมมาทั้งชีวิตในอุบายคดโกงที่กินเวลายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ
“ผมเสียใจ” เขากล่าวเบาๆ “ผมไม่มีคำแก้ตัวต่อพฤติกรรมของผม ไม่มีคำแก้ตัวสำหรับสิ่งนั้น และผมก็จะไม่ขอให้ทุกคนยกโทษให้ด้วย”
อิรา ซอร์กิน ทนายความจำเลยได้ขอให้ผู้พิพากษากำหนดบทลงโทษไม่เกิน 20 ปี ตามอายุของแมดอฟฟ์โดยอ้างว่าเป็นบทลงโทษที่มีความรุนแรงเพียงพอแล้ว แต่เหยื่อหลายคนขอให้ศาลลงโทษหนักที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
คำพิพากษามีขึ้น 6 เดือนหลังอดีตประธานตลาดหลักทรัพย์แนสแดคถูกเปิดโปงในฐานะ 18 มงกุฏ ผู้ดำเนินการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ซึ่งโกงเอาเงินของนักลงทุนไปมหาศาล
อัยการระบุว่ามีการส่งมอบเงินแก่แมดอฟฟ์ ราว 13,000 ล้านดอลลาร์ แต่แมดอฟฟ์คาดหมายว่าเขาได้ทำให้นักลงทุนขาดทุนเป็นเงินถึง 50,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
แมดอฟฟ์ยอมรับสารภาพจากความผิด 11 ข้อหาตั้งแต่การฉ้อฉลด้านหลักทรัพย์ การฟอกเงินและให้การเท็จในเดือนมีนาคม
ในจำนวนเหยื่อของเขา ในจำนวนนั้นมีทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียงในฮอลลีวูด นักลงทุนระดับท็อปในสหรัฐฯ ธนาคารชื่อก้องของโลกและองค์กรการกุศล ซึ่งบางส่วนต้องปิดไปหลังจากรู้ว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงภาพลวงตา
แมดอฟฟ์บอกกับศาลในเดือนมีนาคมว่าเงินหลายพันล้านดอลลาร์ถูกส่งผ่านมือของเขาในช่วง 3 ทศวรรษแห่งการคดโกง โดยเขาไม่เคยนำเงินแม้แต่เซนต์เดียวไปลงทุนในตลาดแต่เงินจำนวนนั้นจะถูกนำเข้าบัญชีธนาคารเชสแมนฮัตตันแทน
จากนั้นเงินก็จะถูกนำไปจ่ายปันผลให้แก่นักลงทุนที่รู้จักกันในนาม "แชร์ลูกโซ่" (Ponzi scheme) คือการลงทุนที่บอกว่าผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนสูง แต่ความจริงแล้วเป็นนำเอาเงินของนักลงทุนใหม่ ๆมาจ่ายให้แก่นักลงทุนเดิมเท่านั้น
ผู้พิพากษายังได้มีคำสั่งให้ริบทรัพย์แมดอฟฟ์ 171,000 ล้านดอลลาร์หรือเกือบ 6 ล้านล้านบาท ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ตามคำขอของอัยการ และในคำสั่งพร้อมกันนั้น ศาลในนิวยอร์กยังได้ยึดทรัพย์ภรรยาของเขา รุธ แมดอฟฟ์ 85 ล้านดอลลาร์ ทำให้เวลานี้เธอเหลือเงินสดติดตัวอยู่ 2.5 ล้านดอลลาร์
ส่วนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่เหยื่อสูญเสียไปนั้น อัยการบอกว่าสามารถกู้คืนจากการชำระทรัพย์สินของเขาได้เพียง 1 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น