เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ หล่นไปต่ำกว่า 46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์ (20) หลังนักลงทุนยังเฝ้าระวังต่อก้าวย่างของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน ขณะที่วอลล์ตรีท ก็ทรุดลงเกือบ 300 จุด จากความกังวลทางภาคธนาคาร
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 4.45 ดอลลาร์ หรือ 8.8 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 45.88 ดอลลาร์ ขณะที่เบรนต์ของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 3.45 ดอลลาร์ หรือ 6.5 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 49.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จากกรณีที่น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม จะหมดอายุสัญญาในวันอังคาร (21) ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด
ขณะเดียวกัน ตลาดเจอแรงบีบที่เพิ่มขึ้น หลังมีข่าวว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตรียมปรับลดประมาณการทางเศรษฐกิจโลกในสัปดาห์หน้า ตามคำกล่าวของโดมินิก สเตราท์ คาห์น กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ พร้อมกันนั้นเขายังคาดหมายว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวต้องรอถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2010
ด้านทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ไม่ได้คาดหมายว่า โอเปกจะลดกำลังผลิตลงอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปเดือนพฤษภาคม และไม่คิดว่าอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวในระยะเวลาอันสั้นจนกระทั่งปีหน้า
ขณะที่ บีเอ็นพีพาริบาส คาดหมายว่า ราคาน้ำมันชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจาก 43 ดอลลาร์ในไตรมาสแรก แต่ในไตรมาสสามจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 45 ดอลลาร์และขยับขึ้นต่อเนื่องสู่ 58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสสี่
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (20) ดิ่งลงกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ จากผลประกอบการอันอ่อนแอของธนาคารแบงก์ออฟอเมริกาและเนชั่นแนล ซิตี้ คอร์ป จุดไฟแห่งความกังวลเกี่ยวกับสถานะของอุตสาหกรรมธนาคารและเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯแห่งนี้ เปิดเผยว่า กำไรของธนาคารทรุดฮวบลงถึง 77% เนื่องจากการว่างงานและปัญหาราคาบ้านส่งผลให้ประชาชนผิดนัดชำระหนี้เครดิตการ์ดและเงินกู้ซื้อบ้าน
รายได้ไตรมาสแรกของแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลงเหลือ 1.21 พันล้านดอลลาร์ หรือ 23 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 5.26 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.16 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่า จะอยู่ที่ 41 เซนต์ต่อหุ้น
ขณะที่ ธนาคารเนชั่นแนล ซิตี้ เปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนอย่างหนักถึง 171 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก จนทำให้ธนาคารต้องประกาศเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเป็นวงเงิน 7 พันล้านดอลลาร์
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 289.60 จุด (3.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,841.73 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 37.21 จุด (4.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 832.39 จุด ขณะที่ แนสแดก ร่วง 64.86 จุด (3.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,608.21 จุด
