เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรถไฟใต้ดิน ชนกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เพิ่มเป็น 9 รายแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามสอบสวนหาสาเหตุ เชื่ออาจเพราะรถไฟอาจวิ่งเร็วมาก
เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้ใบมีดขนาดใหญ่ตัดผ่าซากหักพังเสียหาย เพื่อค้นหาผู้ที่ยังติดค้างเพิ่มเติม ภายหลังจากรถไฟใต้ดินขบวนหนึ่งพุ่งชนม้าเหล็กอีกขบวนที่จอดรออยู่ ส่งผลให้ตู้ท้ายๆ ของรถไฟใต้ดินขบวนที่จอดอยู่ เหินขึ้นไปเกยบนรถไฟขบวนที่พุ่งชนเข้ามา ส่วนผู้โดยสารต่างกระเด็นกระดอนกลางอากาศ
เอเดรียน เฟนตี นายกเทศมนตรีนครวอชิงตันกล่าวเมื่อคืนวันจันทร์ ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 รายในอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เตือนด้วยว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจมากกว่านี้จากเหตุการณ์ที่เขาเรียกว่าเป็น “เหตุนองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของระบบคมนาคมรถไฟใต้ดินของเรา” ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานในเวลาต่อมาว่าพบผู้เสียชีวิต 9 คน
เฟนตี บอกว่า รถไฟใต้ดินขบวนที่แล่นเข้ามา อาจจะวิ่งมาด้วยความเร็วสูงมาก ขณะพุ่งชนม้าเหล็กอีกขบวนที่จอดรออยู่
ส่วนท้ายขบวนของรถไฟคันที่จอดอยู่ข้างหน้าอยู่ถูกอัดจนยู่เหมือนกับหีบเพลง ก่อนจะเหินขึ้นไปเกยอยู่บนรถไฟขบวนที่พุ่งเข้ามา เหตุเกิดตรงบริเวณที่เป็นช่วงเดินรถบนพื้นดินของเส้นทางรถไฟสายสีแดงเส้นนี้
“รถไฟขบวนดังกล่าวคงวิ่งด้วยความเร็วในระดับที่ทำให้รถไฟอีกขบวนถูกบีบอัดจนลดขนาดลงเหลือ 1 ใน 4 ของขนาดจริง” เฟนตี บอกกับซีเอ็นเอ็น ส่อนัยว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มกว่านี้
“เราต้องเข้าไปในส่วนท้ายขบวนของรถไฟคันที่ถูกชน และค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่อาจติดค้างอยู่”
เหตุม้าเหล็กชนกันอย่างวินาศสันตะโรครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.02 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น (ราว 04.02 น.ตามเวลาเมืองไทย) บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินฟอร์ต ทอตเทน ทั้งนี้ ตามคำแถลงของ จอห์น คาโต ผู้อำนวยการใหญ่องค์การขนส่งมวลชนมหานครวอชิงตัน (ดับเบิลยูเอ็มเอทีเอ)
ทีมกู้ภัยต้องใช้เปลพยาบาลลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาวางบนรางรถไฟ ส่วนผู้โดยสารหลายสิบรายที่อยู่ในอาการตกใจ ถูกนำตัวออกมาจากรถไฟอย่างปลอดภัย โดยออกมายืนอยู่ข้างๆ ทางรถไฟใกล้ๆ กับจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังลำเลียงผู้รอดชีวิตจำนวนมากออกมาจากตู้โดยสารรถไฟตู้อื่นๆ โดยบางรายต้องเดินกะโผลกกะเผลกออกมา และได้รับบาดเจ็บอย่างชัดเจน
สำหรับ อับรา เจฟเฟอร์ส ผู้โดยสารรายหนึ่งแล้ว เหตุพุ่งชนครั้งนี้เป็นเป็นการต้อนรับอย่างสยดสยองสู่เมืองหลวงของสหรัฐฯ ที่ซึ่งเธอมุ่งหน้าจากบ้านเพื่อมาทำงานในวันจันทร์เป็นวันแรก(22)
“ฉันอยู่บนรถไฟขบวนที่ถูกชน ตอนแรกฉันคิดว่าเกิดระเบิดขึ้น” เจฟเฟอร์ส วัย 25 ปี บอกกับเอเอฟพี “ฉันคิดว่าเหมือนกับเหตุระเบิดรถไฟในลอนดอน มีแต่ควันและฝุ่นคลุ้งเต็มไปหมด”
ด้าน เดนนิส รูบิน หัวหน้าหน่วยดับเพลิง เผยว่า เจ้าหน้าที่จะทำงานตลอดทั้งคืน เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีใครติดค้างอยู่ในซากรถไฟ
หนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต คือ พนักงานขับรถไฟหญิงของรถไฟขบวนที่พุ่งชนท้ายของม้าเหล็กอีกขบวนที่จอดอยู่ข้างหน้า ซึ่งกำลังหยุดรอคำสั่งให้เดินทางต่อ คาโต ผู้อำนวยการใหญ่ดับเบิลยูเอ็มเอทีเอ กล่าว
ความล้มเหลวด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรงครั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดจากความผิดของมนุษย์หรือของระบบ ย่อมจะทำให้ชุดสอบสวนด้านความปลอดภัยของระบบคมนาคมขนส่ง ต้องตั้งคำถามอย่างเอาจริงเอาจัง หลังจากเกิดเหตุรถไฟชนอย่างรุนแรงมาแล้วเมื่อ 9 เดือนก่อน
โดยเดือนกันยายนปีก่อน มีผู้เสียชีวิต 25 ราย ในระหว่างที่พนักงานขับรถไฟในเมืองลอสแอนเจลิส มัวแต่ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ขณะควบคุมรถ
เจ้าหน้าจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ รุดไปยังจุดเกิดเหตุในนครวอชิงตันเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
“เราได้รับมอบหมายให้สอบสวนเหตุคราวนี้ จนกว่าจะพบความจริงว่า ทำไมถึงเกิดเหตุดังกล่าว และควรทำอะไรบ้างเพื่อให้มั่นใจว่า เหตุสลดทำนองนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก” คาโต กล่าว
ขณะที่ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่า ตัวเขาและภรรยารู้สึก “เศร้าสลด” กับเหตุสลดครั้งนี้
“เราขอส่งความระลึกถึงและคำสวดมนต์วิงวอนของเราถึงครอบครัวและเพื่อนๆ ของเหยื่อในโศกนาฏกรรมครั้งนี้” โอบามา แถลง