เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้งในวันศุกร์(19) จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ขณะที่วอลล์สตรีทปิดในแดนลบเล็กน้อยตามตลาดพลังงาน
ช่วงต้นของการซื้อขายของวันศุกร์(19) ราคาน้ำมันขยับขึ้นไปพอสมควร หลังได้แรงหนุนจากเหตุความไม่สงบในอิหร่าน ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโอเปกและกรณีกลุ่มนักรบยังคงปฏิบัติการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในไนจีเรีย
อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายราคาได้ทรุดลงมาตามแรงเทขายของนักลงทุน โดย น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังขยับขึ้นไปถึงเหนือ 72 ดอลลาร์ ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.87 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากปัจจัยข้างต้น บรรดาเทรดเดอร์ยังระบุว่าราคาน้ำมันถูกกดดันอีกทางหนึ่งจากวันสิ้นอายุสัญญาซื้อขายงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมของน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ที่จะหมดลงในวันจันทร์(22) ทำให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายกำไร
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(19) ปิดผสมผสาน เหตุตลาดจับตาอย่างระมัดระวังหลังมีขยับขึ้นต่อเนื่องเกือบทั้งสัปดาห์จากข้อมูลทางเศรษฐกิจอันสดใส
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 15.87 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,539.73 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 19.75 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,827.47 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.86 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 921.23 จุด
แม้ไม่มีรายงานผลประกอบการของบริษัทสำคัญๆหรือข้อมูลทางเศรษฐกิจต่างๆในวันศุกร์(19) แต่นักลงทุนเข้าสู่ตลาดด้วยแรงสนับสนุนของข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดี(18) ที่บ่งชี้ว่าความเศร้าโศกทางภาคแรงงานกำลังคลี่คลายและมีสัญญาณว่าภาคการผลิตกำลังฟื้นตัว
ทว่ามุมมองในทิศทางที่ดีของนักลงทุนมอดลง เนื่องจากพวกเขาต้องระมัดระวังการลงทุนในช่วงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆต่างปรับลดลง