เอเจนซี- สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association - IATA) คาดวานนี้(8)สายการบินทั่วโลกจะขาดทุนรวมกันถึง 9,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่เคยตั้งคาดการณ์ไว้เมื่อสามเดือนก่อนถึงเกือบสองเท่าตัว เนื่องจากราคาน้ำมันทำท่าขยับสูงขึ้น และผู้ใช้บริการน้อยลงตามภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก
"นี่เป็นสถานการณ์ที่ลำบากที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมการบินเคยเผชิญมา" จิโอวานนี บิซิญานี ผู้อำนวยการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไออาตา กล่าวในระหว่างการประชุมประจำปีของสมาคมเมื่อวานนี้ (8) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และเสริมด้วยว่า "ผมเป็นพวกมองโลกตามความเป็นจริง และตอนนี้ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรมาสนับสนุนให้มองในแง่ดีได้เลย"
อย่างไรก็ตาม ยังมีคนที่มองในแง่ดีอยู่บ้าง เป็นต้นว่า จอห์น ลีห์ ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ของบริษัทผลิตเครื่องบินแอร์บัส เขาระบุว่าปี 2009 คงลำบากมากทีดียว แต่การที่สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์สั่งซื้อเครื่องบินใหม่เพิ่มอีก 150 ลำจากแอร์บัส และจากบริษัทคู่แข่งคือ โบอิ้ง แสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังเริ่มดีดตัวกลับแล้ว
"กรณีการยกเลิกคำสั่งซื้อมีไม่มากนัก จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะขอเลื่อนเวลาออกไปมากกว่า" เขาบอก
ทางด้านอาร์วินด์ จาดาฟ ประธานกรรมการของแอร์อินเดีย ซึ่งเป็นสายการบินของรัฐบาล กล่าวว่าบริษัทกำลังพิจารณาเรื่องการเลื่อนการสั่งซื้อเครื่องบินจากโบอิ้งอยู่เช่นกัน ขณะนี้แอร์อินเดียอยู่ในระหว่างการดำเนินการสั่งซื้อเครื่องบินจากโบอิ้งเป็นมูลค่าถึงกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเครื่อง "ดรีมไลเนอร์ บี787" จำนวน 27 ลำ
"เรากำลังดูว่าจะเลือกทางไหนดี อาจจะเป็นการปรับกำหนดการสั่งซื้อใหม่ก็ได้ ตอนนี้เราไม่มีเงินสด คุณจะให้เราทำยังไงล่ะ"
ส่วนคาเธย์ แปซิฟิกของฮ่องกง กล่าวว่ากำลังคิดหาทางเลื่อนกำหนดการส่งมอบเครื่องบินใหม่อยู่ เพราะบริษัทยังไม่เห็นว่าธุรกิจจะฟื้นตัวขึ้นได้เมื่อไร
อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวดีอยู่บ้างจากกาตาร์ แอร์เวส์ซึ่งมีคำสั่งซื้อเครื่องบินมูลค่าราว 27,000 ล้านดอลลาร์ และขอเร่งการส่งมอบให้เร็วขึ้น
โดยภาพรวมทั่วโลกแล้ว มีเครื่องบินที่มีกำหนดการส่งมอบภายในช่วงสามปีนี้เป็นจำนวนราว 4,000 ลำ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 17 ของจำนวนเครื่องบินที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบัน
"ปัญหาก็คือว่า เครื่องบินที่สั่งซื้อไว้ในช่วงเวลาที่ธุรกิจไปได้ดี กลับมาส่งมอบในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย การหาลูกค้ามาขึ้นเครื่องจึงเป็นเรื่องท้าทายมาก" บิซิญานีกล่าว
ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม ไออาตาเคยคาดหมายว่าอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกจะประสบขาดทุนรวม 4,700 ล้านดอลลาร์ในปี 2009 นอกจากนั้นยังได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดทุนในปี 2008 จาก 8,500 ล้านดอลลาร์ เป็น 10,400 ล้านดอลลาร์ด้วย
ยิ่งกว่านั้น เมื่อธุรกิจสายการบินมาถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช1เอ็น1 ต่างก็ต้องหาทางลดต้นทุนอย่างเต็มที่เพื่อให้กิจการรอดพ้นจากวิกฤต โดยแจแปน แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายกาบินเอเชียที่ใหญ่ที่สุดเมื่อพิจารณาจากรายได้ ก็ประกาศว่ามีแผนจะลดเส้นทางบินระหว่างประเทศลงราว 10 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2010
ทว่าปัญหาใหญ่อีกประการหนึ่งก็คือการที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบิซิญานีระบุว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ จะปัดความรับผิดชอบโดยไม่ดำเนินการใดๆ ไม่ได้
"ความเสี่ยงที่เราเห็นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือว่า เมื่อมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแม้เพียงเล็กน้อย ราคาน้ำมันจะขยับขึ้นตามทันที ต้องไม่ยอมให้พวกนักเก็งกำไรอาศัยเศรษฐกิจโลกเป็นตัวประกันแบบนี้"
ไออาตาคาดการณ์ว่า เนื่องจากการให้บริการจะลดต่ำลง ต้นทุนด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของอุตสาหกรรมการบินจึงจะลดลงราว 59,000 ล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 106,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2009 หรือลดลงจากปี 2008 ราว 31 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนั้น อุตสาหกรรมการบินจะมีรายได้ลดลงราว 80,000 ล้านดอลลาร์ โดยอยู่ที่ 448,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2009
