xs
xsm
sm
md
lg

สิงคโปร์แอร์ไลนส์ลดเครื่องบิน-ลดรายจ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - สิงคโปร์แอร์ไลนส์ ประกาศลดจำนวนเครื่องบินลง 17% รวมทั้งกำลังหาวิธีการต่างๆ ในการลดต้นทุน เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำที่ทำให้จำนวนผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าลดลงไปมาก

สิงคโปร์แอร์ไลนส์ (เอสไอเอ) สายการบินยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในเอเชียแถลงในวันจันทร์ (16)ว่า จะลดเครื่องบินลง 17 ลำ ในปีการเงินหน้า (เม.ย. 2009 - มีค.2010) และยังบอกว่าเป็นไปได้ด้วยว่าจะเลื่อนคำสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ออกไปก่อน

ก่อนหน้านี้ ทางสายการบินมีแผนอยู่แล้วที่จะปลดระวางเครื่องบิน 4 ลำ ตั้งแต่ก่อนที่เศรษฐกิจโลกย่ำแย่ จะทำให้ตลาดการบินสำคัญๆ มีปัญหา

“การเดินทางทางอากาศลดฮวบลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง” ชิวชุนเส่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอสไอเอ กล่าวในคำแถลงเมื่อวันจันทร์ พร้อมกับบอกว่า สถานการณ์นี้สะท้อนออกมาทางการจองตั๋วล่วงหน้า ดังนั้น บริษัทจึงจำต้องลดสมรรถนะการรองรับผู้โดยสารลงไป 11% เมื่อเทียบกับระยะ 12 เดือนก่อน

เกี่ยวกับสถานการณ์การจำหน่ายบัตรที่นั่งผู้โดยสารซึ่งเลวร้ายลงมากนั้น เอสไอเอ ระบุในคำแถลงอีกฉบับหนึ่งว่า เมื่อเดือนมกราคม สายการบินสามารถขายบัตรได้เพียง 74.1% ของที่นั่งที่มีอยู่ ลดลงจากระดับ 80.5% ของ 1 ปีก่อนหน้านั้น ส่วนปริมาณการรับขนส่งสินค้าก็แย่เช่นกัน โดยอัตราส่วนการใช้พื้นที่ขนส่งสินค้าที่มีอยู่ได้ลดลงเป็น 54.2% จากที่เคยอยู่ในระดับ 58.6%

“เมื่อพิจารณาจากการที่การขนส่งสินค้าทางอากาศได้ลดลงมากกว่า 20% ในระยะหลังๆ มานี้ และธรรมเนียมที่เคยเป็นมาซึ่งความต้องการในการเดินทางทางอากาศจะติดตามแนวโน้มด้านการขนส่งสินค้าอย่างใกล้ชิดแล้ว ทำให้เราต้องยอมรับความเป็นจริงที่ว่า ปี 2009 จะเป็นปีที่ยากลำบากมากๆ” ชิว กล่าว

การลดเครื่องบินลง 17 ลำนั้นเท่ากับประมาณ 17% เมื่อคิดจากเครื่องบิน 102 ลำที่สายการบินมีอยู่ ตามรายงาน ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์

แต่บริษัทก็บอกว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจจะชะลอคำสั่งซื้อเครื่องบินที่คงค้างอยู่ในปัจจุบันออกไปก่อนหรือไม่ ซึ่งคำสั่งซื้อดังกล่าวนี้ รวมถึง แอร์บัส เอ 380เอส อันเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 13 ลำ

โฆษกของบริษัท กล่าวว่า อย่าเพิ่งตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้งไปเสีย โดยตอนนี้ สิงคโปร์ แอร์ไลนส์ กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่อย่างรอบด้าน เพราะว่าถ้าเครื่องบินใหม่มา บริษัทจะได้ปลดระวางเครื่องบินเก่าซึ่งใช้น้ำมันมากกว่าออกไป และทำให้ประหยัดต้นทุนการดำเนินงานลงได้

ตอนนี้สายการบินมีเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ซูเปอร์จัมโบ อยู่ 6 ลำ และกำลังสั่งเครื่องบินแอร์บัส เอ 330เอส 18 ลำ, โบอิง บี787-9 ดรีมไลเนอร์ส 20 ลำ และ เอ350-900 เอ็กซ์ดับบลิวบีเอสอีก 20 ลำ ซึ่งจะส่งมอบกันไปจนถึงปี 2016

โฆษกของเอสไอเอ กล่าวอีกว่า สายการบินยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะอย่างไรกับเครื่องบิน 17 ลำที่จะถูกปลดระวาง แต่ก็มีทางเลือกอย่าง เช่น ขาย ให้เช่า หรือจอดไว้ในทะเลทราย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของบริษัทการบินหากว่าไม่ได้ใช้เครื่องบิน

ชูเคอร์ ยูซอฟ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมการบินของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส กล่าวอย่างมองโลกในแง่ร้ายว่า “สถานการณ์จะย่ำแย่กว่านี้อีกมาก ... และการลอยแพพนักงานอาจจะตามมาเร็วๆ นี้”

สำหรับซีอีโอ ชิว บอกว่า ฝ่ายบริหารได้พบกับสหภาพแรงงานเพื่อหารือแผนรองรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว ซึ่งก็รวมทั้งขอพนักงานอาสาหยุดงานโดยไม่ได้เงินตอบแทน, เกษียณก่อนกำหนด, ลดเวลาทำงานลง รวมทั้งเร่งการพิจารณาคำขอลาหยุดงานในกรณีต่างๆ ให้เร็วขึ้น

ชิว กล่าวด้วยว่าหากจะมีการลดเงินเดือน ก็จะต้องเริ่มที่ฝ่ายบริหารก่อน

เขาอธิบายว่า เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก ดังนั้น จึงไม่มีธุรกิจการบินในประเทศมารองรับผลกระทบของการที่คนเดินทางระหว่างประเทศน้อยลง ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้สองวัน เอสไอเอ ออกมาประกาศว่า จะหยุดบริการเที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์และแวนคูเวอร์ ที่มี 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ เพราะว่ามีผู้โดยสารน้อย

และเมื่อเดือนธันวาคม สิงคโปร์ แอร์ไลนส์ ก็ได้เจรจากับนักบินขนส่งสินค้า เพื่อให้หยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน เนื่องจากการส่งสินค้าลดลงอย่างมาก

ณ เดือนมีนาคมปีที่แล้ว บริษัทมีพนักงาน 14,245 คน ซึ่งรวมทั้งพนักงานบนเครื่องบิน 7,172 คน และนักบินเที่ยวบินโดยสาร 2,286 คน

เทมาเส็ก โฮลดิ้ง กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ถือหุ้น 54% ในสายการบินแห่งชาตินี้ โดยในช่วงไตรมาสสามของปีการเงินนี้ (ต.ค.-ธ.ค.2008) เอสไอเอ รายงานว่า กำไรลดลงถึง 42.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น