เอเอฟพี - แม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังดำดิ่งอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย และภาคธุรกิจรถยนต์ทั่วโลกจะกำลังย่ำแย่ แต่ค่ายโตโยต้า มอเตอร์แห่งญี่ปุ่นกลับมีข่าวดีมาบอก เพราะบริษัทกำลังเร่งผลิตรถไฮบริด “พริอุส” เต็มกำลังการผลิต
ทาเคชิ อูชิยามาดะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของโตโยต้า มอเตอร์ ระบุว่าหลังจากที่บริษัทใช้เวลาหลายเดือนรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ด้วยการลดกำลังการผลิต ปิดโรงงาน และปลดพนักงานบางส่วน ขณะนี้โตโยต้ากำลังเร่งมือเต็มที่กับการผลิตรถยนต์ไฮบริด “พริอุส” รุ่นใหม่
ขณะที่การสำรวจของอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นก็ระบุว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ยอดขายของรถยนต์ “พริอุส” แซงหน้าคู่แข่งอย่างรถ “อินไซต์” ของค่ายฮอนด้า มอเตอร์ ขึ้นสู่อันดับหนึ่งได้เป็นครั้งแรก
พวกผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นต่างก็หวังว่า ในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกเช่นนี้ ยอดขายในประเทศที่เริ่มกระเตื้องขึ้นและแนวโน้มโลกที่จะมีมาตรการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น จะทำให้พวกตนรักษาบทบาทนำในตลาดโลกได้
รถไฮบริดนั้นเปิดตัวขึ้นมาอย่างเชื่องช้าหงอยเหงาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน ทว่านับแต่โตโยต้าบุกเบิกการผลิตรถไฮบริดแบบผลิตกันเป็นจำนวนมากๆ ด้วยรถ “พริอุส” รุ่นแรกเมื่อปี 1997 ปรากฏว่ายอดขายในแต่ละปีก็ได้พุ่งสู่ระดับ 1.8 ล้านคันในทั่วโลก
ทั้งนี้ รถไฮบริดนั้นวิ่งโดยอาศัยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่จะเปลี่ยนไปใช้น้ำมันได้เมื่อไฟในแบตเตอรีใกล้หมด นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดพลังงานด้วยการเปลี่ยนพลังงานจลน์ในระหว่างที่รถยนต์เบรคให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และหยุดเครื่องยนต์เมื่อรถยนต์หยุดนิ่งด้วย
นอกจากโตโยต้าแล้ว มีบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นอีกหลายแห่งที่กำลังเร่งมือผลิตรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประกาศเมื่อวันศุกร์ (5) ว่าบริษัทจะเริ่มนำรถ "iMiEV" ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ออกขายให้กับลูกค้าประเภทบริษัทและหน่วยงานภาครัฐ ก่อนที่จะวางตลาดในเชิงพาณิชย์ต่อไป
โอซามุ มาซุโกะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของมิตซูบิชิบอกว่า “ในระยะยาวแล้ว รถพลังงานไฟฟ้าจะเป็นรูปแบบของรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เพราะสามารถตอบโจทย์เรื่องมลพิษทางอากาศและการขาดแคลนน้ำมันได้”
ทว่า ข้อเสียของรถพลังงานไฟฟ้ารุ่น iMiEV ก็คือสามารถขับเคลื่อนไปได้เพียง 160 กิโลเมตร ต่อการประจุไฟฟ้าหนึ่งครั้ง ดังนั้นจึงต้องเร่งพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ฮอนด้าและนิสสันก็ได้ลงทุนในเรื่องนี้อยู่
เมื่อเดือนที่แล้วสหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรฐานใหม่ในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับรถยนต์ ซึ่งเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม โดยหวังจะกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐฯ ทำรถยนต์ประเภทเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อากิฮิโกะ โอสึกะ หัวหน้าวิศวกรผู้ดูแลการผลิตรถ “พริอุส” รุ่นใหม่ล่าสุดกล่าวว่า “การกำหนดมาตรฐานใหม่ดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน” สำหรับรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้า
อย่างไรก็ตาม โคยิ เอนโดะ นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส กล่าวว่า “ลูกค้าชาวอเมริกันซึ่งชอบรถยนต์คันใหญ่ๆ คงจะไม่เปลี่ยนรสนิยมมาเลือกรถเพื่อสิ่งแวดล้อมจากญี่ปุ่นในทันที แต่แนวโน้มของตลาดโดยรวมที่หันมาหารถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมจะเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น”
เพื่อเตรียมรับมือกับอนาคตข้างหน้าไปอีก โตโยต้ากับฮอนด้าก็กำลังเร่งมือผลิตรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง ที่อาศัยปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างไฮโดรเจนกับออกซิเจน โดยมีน้ำเป็นของเหลือ แต่ปัญหาก็คือต้นทุนการผลิตเซลเชื้อเพลิง และไฮโดรเจนยังสูงอยู่มาก
ดังนั้น สิ่งสำคัญในขณะนี้จึงอยู่ที่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่รุ่นใหม่ให้มีขนาดเล็กลง และมีราคาถูกลง รวมทั้งหาทางทำให้การผลิตไฮโดรเจนถูกลง เพื่อรับมือกับปัญหาในระยะยาวนั่นก็คือ การที่น้ำมันจะต้องหมดลงในวันหนึ่งวันใดข้างหน้า