เริ่มกู้ซากแอร์ฟรานซ์ในแอตแลนติก-สื่อแฉบินช้าเกินไปก่อนเกิดอุบัติเหตุ

เอเอฟพี/เอเจนซี - เรือหลายลำของกองทัพเรือบราซิลในวันพฤหัสบดี(4) เริ่มปฏิบัติการกู้ซากเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ที่ร่วงลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่สื่อมวลชนฝรั่งเศสอ้างแหล่งข่าวการสืบสวนชี้เครื่องบินลำนี้บินช้าเกินไปจนช่วงก่อนเกิดหายนะครั้งร้ายแรง

ทั้งนี้ซากของเครื่องบินแอร์บัสเอ330 จะถูกส่งไปยังฝรั่งเศสที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว พลจัตวารามอน บอร์เกส คาร์โดโซ บอกกับผู้สื่อข่าวที่เมืองเรซิเฟ ทางภาคเหนือของบราซิล

"เรากำลังลงมือกู้ซาก" เขากล่าว "เมื่อวานนี้(วันพุธ) เป้าหมายคือกาารค้นหาศพ แต่วันนี้(พฤหัสบดี) เราปฏิบัติการทั้งสองแบบอย่างเท่าเทียมกัน"

คาร์โดโซ กล่าวว่าได้ใช้กำลังทหาร 150 นายเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ซากในมหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณที่อยู่ห่างจากฝั่งทะลทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล 1,000 กิโลเมตร ทั้งนี้พื้นที่รวมของการค้นหาศพและกู้ซากเครื่องบินอยู่ในเนื้อที่ราว 6,000 ตารางกิโลเมตร

เจ้าหน้าที่กล่าวเสริมว่าแม้ยังไม่พบสัญญาณการอยู่รอดของผู้โดยสารและลูกเรือ 228 คน แต่เชื่อว่าหากมีผู้รอดชีวิตก็คงอยู่ไม่ห่างจากจุดที่พบซากปรักหักพังเท่าใดนัก

"ในกรณีนั้น เราก็มีเฮลิคอปเตอร์ที่พร้อมส่งนักโดดร่มพร้อมเรือและอุปกรณ์กู้ภัยลงไปทันที" เขากล่าว แต่ในกรณีที่พบผู้เสียชีวิต "ปฏิบัติการกู้ซากเครื่องบินจะถูกระงับทันทีและเป้าหมายอันดับหนึ่งคือเข้าไปนำศพเหล่านั้นไปยังผืนดิน"

เนลสัน โจบิม รัฐมนตรีกลาโหมบราซิลกล่าวในช่วงค่ำวันพุธ(3) ว่ายังไม่พบผู้รอดชีวิตหรือศพ ณ จุดตกของเครื่องบิน และเขาชี้ว่าบริเวณดังกล่าวมีฉลามอยู่เป็นจำนวนมาก

ด้านหนังสือพิมพ์เลมอนเดของฝรั่งเศส รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดทีมสืบสวนเมื่อวันพฤหัสบดี(4) ว่าเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินจากริโอ เดจาเนโร ของบราซิล ปลายทางกรุงปารีส บินช้าเกินไปก่อนเกิดหายนะ

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานอ้างว่าแอร์บัสบริษัทผู้ผลิต เตรียมแนะนำให้บริษัทต่างๆที่ใช้เครื่องบินแอร์บัสเอ330 ใช้ความเร็วให้เหมาะสมระหว่างเผชิญหน้ากับสภาพอากาศที่เลวร้ายตามหลังอุบัตเหตุที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามแอร์บัส ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่างดังกล่าวเช่นเดียวกับหน่วยสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของฝรั่งเศส

เครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ เอ330-200 ไม่ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือก่อนประสบอุบัติเหตุ มีเพียงส่งข้อความอัตโนมัติรายงานว่าพบปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรตามด้วยสูญเสียความดันในห้องผู้โดยสาร 3 นาทีหลังจากบินเข้าไปยังเขตพายุ

ยังไม่เป็นยืนยันได้ว่าความเร็วที่ต่ำเกินไปอาจเป็นชนวนก่อให้ระบบต่างๆของเครื่องบินขัดข้องอย่างฉับพลันได้ แต่คำแนะนำต่างๆจากแอร์บัสต่อผู้ใช้เครื่องบินรุ่นเอ330 อาจเป็นตัวเติมเชื้อข่าวลือเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้

ผู้เชี่ยวชาญต่างตั้งคำถามว่าความผิดปกติของบรรยากาศอย่างรุนแรงหรือความดันอากาศที่ลดลงระหว่างพายุอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้--ที่ถือว่าเป็นหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของสายการบินแอร์ฟรานซ์เลยทีเดียว