ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โครงการฝูงบินปะการัง” วุ่น ผู้รับจ้างขนส่งซากเครื่องบินร้องยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง จังหวัดเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถกเครียดหาทางแก้ปัญหา
นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวหลังการประชุมเครียดร่วมกับคณะกรรมการจัดสร้างปะการังเทียม เพื่อเป็นแหล่งดำน้ำจังหวัดภูเก็ต เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาผู้รับจ้างขนส่งเครื่องบินจำนวน 10 ลำ จากจังหวัดลพบุรีมายังจังหวัดภูเก็ต ทำหนังสือร้องเรียนมายังจังหวัดภูเก็ต เรื่องไม่ได้รับค่าจ้าง ว่า จังหวัดได้รับการร้องเรียน จากผู้รับจ้างขนส่งซากเครื่องบินจากจังหวัดลพบุรีมายังจังหวัดภูเก็ตว่า จนถึงขณะนี้ผู้รับจ้างยังได้รับค่าจ้างขนส่งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 2 ล้านบาท
จังหวัดจึงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อโครงการที่กำลังจะดำเนินการ และจากการสอบถามไปยัง อบต.ชิงทะเลจ้าของเรื่องทราบว่า อบต.เชิงทะเลได้จ่ายเงินอุดหนุนผ่านไปยังสมาคมดำน้ำแห่งประเทศไทยแล้ว ส่วนกรณีที่สมาคมฯ ยังไม่จ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้าง เนื่องจากสมาคมฯมองว่าราคาที่ตกลงกันไว้เป็นราคาที่ไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการได้ข้อยุติว่า ให้ใช้มติที่ประชุมของคณะกรรมการ ซึ่งมีการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่แจ้งไปที่สมาคมดำน้ำแห่งประเทศไทย ขอให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการขนเครื่องบินตามที่เกิดขึ้นจริง โดยคณะกรรมการจะทำการตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอีกครั้งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 7 วัน
ขณะที่ นายรณชัย จินดาพล นายกสมาคมดำน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ผ่านมาสมาคมยังไม่จ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้าง เนื่องจากมองว่าเป็นเงินค่าจ้างที่สูงเกินไป และจากการตรวจสอบราคาค่าขนส่งทั่วไปพบว่าราคาต่ำกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม จากการร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อให้ไปตรวจสอบรายละเอียดการใช้จ่าย และให้เป็นการสั่งจ่ายจากคณะกรรมการผ่านมาทางสมาคมฯ สมาคมก็พร้อมที่จะจ่ายเงินตามจำนวนที่คณะกรรมการแจ้งมา แต่ถ้าจะให้สมาคมฯจ่ายเองก็จะจ่ายในราคาที่สมาคมฯเสนอเท่านั้น
สำหรับการจัดสร้างปะการังเทียมเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดภูเก็ต และเพื่อป้องกัน แก้ไขปัญหา ลดผลกระทบความเสื่อมจากการใช้ประโยชน์แนวปะการังและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ระบบนิเวศทางทะเล ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐและเอกชนจึงมีความเห็นร่วมกันที่จะนำซากเครื่องบินมาจัดสร้างเป็นปะการังเทียมสำหรับเป็นแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมีการขอรับบริจาคซากเครื่องบินจำนวน 10 ลำจากกองทัพอากาศ มาจมที่บริเวณหาดบางเทา
ทั้งนี้ ได้มีการว่าจ้างบริษัทเอกชนทำการขนเครื่องบิน จากจังหวัดลพบุรีมายังท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการประกอบ และจะทำการจมในวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนนาร์กีส ทำให้ต้องเลื่อนการดำเนินการออกไปเป็นเดือน พ.ย.2551
ขณะนี้เครื่องบินทั้งหมดทั้งอยู่บริเวณด้านหลัง ท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต