xs
xsm
sm
md
lg

USฮึ่มจะแข็งกร้าวขึ้นบีบจีนแก้ปัญหาการค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(ไฟล์ภาพ) รอน เคิร์ก(ซ้าย) พูดคุยกับรัฐมนตรีพาณิชย์ของจีน ที่ล่าสุดเคิร์กยืนยันว่าสหรัฐฯจะบีบจีนแก้ไขปัญหาการค้า
เอเอฟพี - สหรัฐฯ ระบุในวันอังคาร (2) ว่าต้องการเดินหน้าอย่างแข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อสะสางข้อขัดแย้งทางการค้ากับจีน ทั้งยังเตือนด้วยว่าจะไม่ลังเลใจหากต้องดึงยักษ์ใหญ่ของเอเชียเข้าไปตกลงกันในเวทีองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)

รอน เคิร์ก ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวในที่ประชุมสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน ซึ่งมีตัวแทนจากบริษัทอเมริกันที่เข้าไปทำธุรกิจในจีนราว 250 แห่งเข้าร่วมงาน ว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าเจรจากับจีนก็ต่อเมื่อเห็นว่าเป็น "วิธีการที่เร็วที่สุด ดีที่สุด และมั่นใจได้มากที่สุด" ว่าจะแก้ปัญหาขัดแย้งทางการค้าระหว่างกันได้

"แต่ถ้าหากแนวทางที่เราต้องการใช้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว เราจะไม่ลังเลใจที่จะใช้วิธีการอื่นๆ เช่น การใช้กลไกยุติข้อพิพาท เพื่อบังคับใช้ตามระเบียบข้อบังคับที่เป็นลายลักษณ์อักษร" เคิร์กกล่าว

"หากจำเป็นต้องร้องต่อดับเบิลยูทีโอ เราก็จะดำเนินการเช่นกัน" เคิร์กเสริมและอ้างถึงข้อขัดแย้งหลักๆ ระดับทวิภาคี 7 กรณีที่สหรัฐฯ ได้ร้องต่อดับเบิลยูทีโอไปแล้วด้วย

เคิร์กบอกอีกว่ามีหลายกรณีที่นโยบายด้านอุตสาหกรรมและการจัดซื้อจัดจ้างของจีน ตลอดจนกระบวนการเรื่องมาตรฐานและการออกใบอนุญาต โน้มเอียงเข้าข้างกิจการภายในประเทศหรือรัฐวิสาหกิจของจีน และกีดกันบริษัทต่างชาติ

นอกจากนั้นเขายังเสนอว่าจีนควรจะ "ปรับปรุงในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนด้านแรงงาน และความปลอดภัยของสินค้า" ด้วย

ทั้งนี้สหรัฐฯ ได้แสดงความวิตกอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับปัญหาการเข้าถึงตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยสหรัฐฯ นั้นหวังที่จะลดปริมาณการขาดดุลกับจีนที่สะสมมาเป็นมูลค่ามหาศาล ส่วนพวก ส.ส. ก็กล่าวหาจีนมาเป็นเวลานานแล้วเรื่องการทำให้ค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อให้จีนส่งออกสินค้าได้ในราคาถูกกว่าสินค้าของสหรัฐฯ

เคิร์กยังกระตุ้นให้จีนดำเนินการปฏิรูปตลาดโดยเร็ว เขาบอกว่าผู้ผลิตสินค้าของสหรัฐฯ ต้องการเข้าถึงตลาดจีนให้มากขึ้นเพื่อที่จะรักษาการจ้างงาน และสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ที่ให้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นในประเทศด้วย

"เราต้องการรู้ผลโดยเร็วและไม่รีรอ" เขากล่าว "โดยปกติแล้วการเจรจาและต่อรองสามารถแก้ปัญหาขัดแย้งทางการค้าได้เร็วกว่าการฟ้องร้องเป็นเรื่องเป็นราวกัน ยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่อย่างนี้ เราไม่อาจเสียเวลาอีกแล้ว"

นอกจากนั้น เขายังกล่าวถึงคณะกรรมาธิการร่วมด้านพาณิชย์และการค้า (Joint Commission on Commerce and Trade - JCCT) ซึ่งเป็นเวทีในการแก้ปัญหาทางการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และจีน ว่าควรจะดำเนินการในเชิงปฏิบัติให้มากขึ้น

"เราสามารถระบุข้อขัดแย้งทางการค้าที่มีอยู่ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ไปจนถึงการเข้าถึงตลาดที่เป็นอุปสรรคสำหรับธุรกิจสหรัฐฯ ในการเข้าตลาดจีน แต่เจซีซีทีต้องทำงานให้คืบหน้ามากกว่านั้น"

เคิร์กเสริมอีกว่า "เราจะต้องผลักดันการแก้ปัญหาการค้าไปข้างหน้าอย่างมีความหมาย แม้ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากความแตกต่างในแนวทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ กับจีน"

รัฐบาลสหรัฐฯ มีกำหนดจะประชุมร่วมกับจีนในเวทีเจซีซีทีเป็นครั้งแรกในฤดูใบไม้ร่วงปลายปีนี้ โดยจะมีเดเมทริออส แมแรนทิส ผู้ช่วยของเคิร์กเดินทางไปเตรียมการประชุมภายในเร็วๆ นี้

พวกผู้นำธุรกิจอเมริกันต่างขานรับท่าทีของเคิร์กในครั้งนี้ เห็นได้จากการที่จอห์น ฟริสบี ประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีนกล่าวว่า "ถึงอย่างไร จีนก็เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ ในทศวรรษนี้ ส่วนท่านทูตเคิร์กก็ต้องการให้มีอัตราการเติบโตเช่นนี้ต่อไป โดยสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทอเมริกันว่าจะสามารถเข้าถึงตลาดสินค้าและบริการของจีนที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเร็วมาก"
กำลังโหลดความคิดเห็น