เอเอฟพี - โอเปกเมื่อวันพฤหัสบดี(28) มีมติไม่เปลี่ยนแปลงกำลังผลิต สืบเนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและราคาน้ำมันดิบเริ่มขยับตัวสูงขึ้น ทำให้ชาติสมาชิกเห็นพ้องรักษากำลังผลิตระดับปัจจุบันไว้
สมาชิก 12 ชาติของกลุ่มประเทศ ผู้ส่งออกน้ำมันเชื่อว่าเวลานี้มีอุปทานล้นตลาดจากสต๊อกที่พุ่งขึ้นในระดับสูง แต่ก็พอใจกับราคาที่เมื่อเร็วๆนี้ขยับขึ้นต่อเนื่องและล่าสุดก้าวขึ้นไปเหนือ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว
"เราตัดสินใจรักษากำลังผลิตในระดับเดิมเพราะว่าเราเห็นหลายสิ่งกำลังดีขึ้นในอนาคต" ชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีน้ำมันแอลจีเรียระบุ พร้อมบอกต่อว่ากลุ่มผู้ผลิตมีเป้าหมายคงกำลังผลิตไว้ที่ 24.845 ล้านบาร์เรลต่อวัน
รัฐมนตรีบางส่วนแสดงความกังวลว่าการลดกำลังผลิตของโอเปก ณ การประชุมหนนี้อาจผลักให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงเกินไป ซึ่งส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยอย่างรุนแรง แต่กลับต้องมาผจญกับปัญหาพลังงานราคาแพงซ้ำเติมเข้าไปอีก
"เราไม่ควรก่อความยุ่งยากแก่เศรษฐกิจโลกมากไปกว่านี้" ชุกรี กาเนม ผู้อำนวยการบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียกล่าวก่อนหน้าการประชุม
เคลิล บอกว่าราคาน้ำมัน 60 ดอลลาร์ ไม่ได้เกิดขึ้นจากภาวะที่ถูกบีบคั้น แต่ราคาที่สูงขึ้นเป็นผลสะท้อนจากมุมมองแนวโน้วทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่าเมื่อครั้งการประชุมโอเปกคราวก่อนในเดือนมีนาคม
เครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจเมื่อไม่นานที่ผ่านมา เกือบทั้งหมดเน้นให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภคสหรัฐฯที่ฟื้นตัว ได้เพิ่มความหวังว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลกอาจหลุดพ้นจากจุดต่ำสุดแล้ว ทำให้ตลาดทุนปรับตัวขึ้นและราคาน้ำมันขยับตามไปด้วย
ราคาน้ำมันทะยานทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน เหนือ 63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพุธ(27) ก่อนปรับลดเล็กน้อยในวันพฤหับดี(26) อย่างไรก็ตามราคายังคงต่ำกว่า 75 ดอลลาร์ที่ทางโอเปกบอกว่าพวกเขาต้องการเห็นในระยะยาว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดคะเนว่าราคาน้ำมันจะคงอยู่ในระดับปัจจุบันนี้ไปจนถึงสิ้นปี ก่อนขยับขึ้นเล็กน้อยในปี 2010 เมื่อเศรษฐกิจโลกได้รับคาดหมายว่าฟื้นตัวแล้ว
จอห์น ฮอลล์ นักวิเคราะห์รายหนึ่งบอกว่าสาเหตุที่โอเปกไม่ตัดสินลดกำลังผลิตอีก อาจเป็นเพราะว่าชาติสมาชิกหลายประเทศได้ผลิตน้ำมันเกินโควตาของพวกเขาอยู่แล้ว