เอเอฟพี - บรรดารัฐมนตรีน้ำมันองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประชุมกันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันนี้ (28) โดยดูจากท่าทีของรัฐมนตรีเหล่านี้และความเห็นของพวกนักวิเคราะห์แล้ว แทบจะแน่นอนว่าโอเปกน่าจะยังคงเพดานการผลิตเอาไว้เท่าเดิม เนื่องจาก "หน่ออ่อน" ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก ยังไม่อาจจะทนทานการปรับขึ้นของราคาพลังงานได้
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับขึ้นอย่างพรวดพราดสู่ระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วง 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นการผ่อนคลายแรงกดดันที่มีต่อพวกประเทศโอเปก ถึงแม้จะอยู่ยังในระดับต่ำกว่า 75 ดอลลาร์ดังที่พวกเขาคาดหวังไว้ก็ตาม
อย่างไรก็ดี ในขณะที่เศรษฐกิจโลกโดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างรุนแรง การดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ก็ดูจะมีแต่ทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดน้อยลง
เหล่ารัฐมนตรีโอเปกทยอยเดินทางถึงเวียนนาตั้งแต่เมื่อวันพุธ (27) เพื่อเข้าร่วมการประชุมอย่างเป็นทางการในวันนี้(28) ซึ่งจะมีการทบทวนถึงเพดานการผลิตของโอเปกด้วย โดยหลายฝ่ายคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโควตาการผลิตเดิม ซึ่งอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โอเปกซึ่งผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดราวร้อยละ 40 ของโลก ได้ตัดลดเพดานการผลิตลงมา 3 ครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ราคาน้ำมันพุ่งทำลายสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับเหนือ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แล้วก็ดำดิ่งลงสู่ระดับ 32 ดอลลาร์เมื่อช่วงปลายปี
อาลี อัลนูอัยมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโอเปก กล่าววานนี้ (27) ว่า มองเห็นความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศผู้บริโภคแถบเอเชีย พร้อมเสริมด้วยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นการสนับสนุนการมองมองการณ์แง่บวกที่ว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มจะฟื้นตัว
"เราเริ่มเห็นดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าของเราบางประเทศ" ในแถบเอเชีย อย่างจีน นูอัยมีกล่าวกับผู้สื่อข่าว
รมว.น้ำมันรายนี้กล่าวย้ำว่า วิตกกังวลกับปริมาณน้ำมันตามคลังสำรองที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศอุตสาหกรรม อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ดีมานด์จะลดน้อยลง แต่เขาเชื่อว่าน้ำมันในคลังสำรองที่เพิ่มขึ้นมากๆ เช่นนี้ กำลังเริ่มจะลดลงแล้ว
ก่อนหน้านั้นกษัตริย์อัลดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงมองการณ์แง่บวกต่ออนาคตของตลาดน้ำมัน ระหว่างทรงพระราชทานสัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์คูเวตฉบับวันอังคาร (26)
"ในเวลานี้ เราเห็นเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และมองเห็นปัจจัยต่าง ๆ ที่บ่งชี้ว่า ความต้องการพลังงานเริ่มสูงขึ้น"
เมื่อวันอาทิตย์ (24) ชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีพลังงานของแอลจีเรีย ยังคาดการณ์ด้วยว่า บรรดารัฐมนตรีโอเปกจะลงมติรักษาโควตาการผลิตในปัจจุบันเอาไว้
"เราอยากเห็นเศรษฐกิจโลกเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ผมคิดว่า การรักษาโควตาเดิมในปัจจุบันเป็นไปตามทิศทางนั้น"
เคลิลกล่าวระหว่างการไปประชุมร่วมกับรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี8 ที่กรุงโรม
"การรักษาโควตาการผลิตในปัจจุบัน ขณะที่ราคาน้ำมันกำลังขยับขึ้น เป็นการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด ทำไม.....ต้องทำลายวงจรการเติบโตของเศรษฐกิจ ในเมื่อการฟื้นตัวเริ่มปรากฏเค้าลางแล้ว" รมว. แอลจีเรียกล่าว
แม้ท่าทีของบรรดารัฐมนตรีและความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ จะชวนให้เชื่อว่า โอเปกน่าจะคงโควตาการผลิตตามเดิม แต่บริษัทที่ปรึกษาเจบีซี เอนเนอร์จี คาดว่า โอเปกจะลดเพดานการผลิตลง โดยประเมินจากความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันอาจตกลงอย่างฮวบฮาบในหลายเดือนข้างหน้า
"ความเห็นของเราคือ โอเปกต้องมองออกไปจากระดับราคาในปัจจุบัน แล้วเล็งไปที่ความอ่อนแออย่างฉับพลันในพื้นฐานของตลาด”
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับขึ้นอย่างพรวดพราดสู่ระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วง 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นการผ่อนคลายแรงกดดันที่มีต่อพวกประเทศโอเปก ถึงแม้จะอยู่ยังในระดับต่ำกว่า 75 ดอลลาร์ดังที่พวกเขาคาดหวังไว้ก็ตาม
อย่างไรก็ดี ในขณะที่เศรษฐกิจโลกโดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างรุนแรง การดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ก็ดูจะมีแต่ทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดน้อยลง
เหล่ารัฐมนตรีโอเปกทยอยเดินทางถึงเวียนนาตั้งแต่เมื่อวันพุธ (27) เพื่อเข้าร่วมการประชุมอย่างเป็นทางการในวันนี้(28) ซึ่งจะมีการทบทวนถึงเพดานการผลิตของโอเปกด้วย โดยหลายฝ่ายคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโควตาการผลิตเดิม ซึ่งอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โอเปกซึ่งผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดราวร้อยละ 40 ของโลก ได้ตัดลดเพดานการผลิตลงมา 3 ครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ราคาน้ำมันพุ่งทำลายสถิติราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับเหนือ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แล้วก็ดำดิ่งลงสู่ระดับ 32 ดอลลาร์เมื่อช่วงปลายปี
อาลี อัลนูอัยมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโอเปก กล่าววานนี้ (27) ว่า มองเห็นความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศผู้บริโภคแถบเอเชีย พร้อมเสริมด้วยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นการสนับสนุนการมองมองการณ์แง่บวกที่ว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มจะฟื้นตัว
"เราเริ่มเห็นดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าของเราบางประเทศ" ในแถบเอเชีย อย่างจีน นูอัยมีกล่าวกับผู้สื่อข่าว
รมว.น้ำมันรายนี้กล่าวย้ำว่า วิตกกังวลกับปริมาณน้ำมันตามคลังสำรองที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศอุตสาหกรรม อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ดีมานด์จะลดน้อยลง แต่เขาเชื่อว่าน้ำมันในคลังสำรองที่เพิ่มขึ้นมากๆ เช่นนี้ กำลังเริ่มจะลดลงแล้ว
ก่อนหน้านั้นกษัตริย์อัลดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงมองการณ์แง่บวกต่ออนาคตของตลาดน้ำมัน ระหว่างทรงพระราชทานสัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์คูเวตฉบับวันอังคาร (26)
"ในเวลานี้ เราเห็นเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และมองเห็นปัจจัยต่าง ๆ ที่บ่งชี้ว่า ความต้องการพลังงานเริ่มสูงขึ้น"
เมื่อวันอาทิตย์ (24) ชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีพลังงานของแอลจีเรีย ยังคาดการณ์ด้วยว่า บรรดารัฐมนตรีโอเปกจะลงมติรักษาโควตาการผลิตในปัจจุบันเอาไว้
"เราอยากเห็นเศรษฐกิจโลกเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ผมคิดว่า การรักษาโควตาเดิมในปัจจุบันเป็นไปตามทิศทางนั้น"
เคลิลกล่าวระหว่างการไปประชุมร่วมกับรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี8 ที่กรุงโรม
"การรักษาโควตาการผลิตในปัจจุบัน ขณะที่ราคาน้ำมันกำลังขยับขึ้น เป็นการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด ทำไม.....ต้องทำลายวงจรการเติบโตของเศรษฐกิจ ในเมื่อการฟื้นตัวเริ่มปรากฏเค้าลางแล้ว" รมว. แอลจีเรียกล่าว
แม้ท่าทีของบรรดารัฐมนตรีและความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ จะชวนให้เชื่อว่า โอเปกน่าจะคงโควตาการผลิตตามเดิม แต่บริษัทที่ปรึกษาเจบีซี เอนเนอร์จี คาดว่า โอเปกจะลดเพดานการผลิตลง โดยประเมินจากความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันอาจตกลงอย่างฮวบฮาบในหลายเดือนข้างหน้า
"ความเห็นของเราคือ โอเปกต้องมองออกไปจากระดับราคาในปัจจุบัน แล้วเล็งไปที่ความอ่อนแออย่างฉับพลันในพื้นฐานของตลาด”
