รอยเตอร์/เอเอฟพี - บรรดาประเทศผู้บริโภคเรียกร้องเมื่อวันอาทิตย์ (24) ให้ฝ่ายผู้ผลิตรักษาระดับราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ ไม่เช่นนั้นก็จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกที่ยังคงอยู่ในสภาพบอบบาง พร้อมกันนั้นก็เตือนว่าราคาน้ำมันควรจะอยู่ในระดับที่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลกและก็กระตุ้นการลงทุนใหม่ ๆในอุตสาหกรรมนี้ ทางด้านซาอุดีอาระเบีย ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกคาดการณ์ว่า ในที่สุดราคาน้ำมันจะกลับขึ้นมาอยู่ในระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
บรรดารัฐมนตรีพลังงานของกลุ่ม 8 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี8) กำลังประชุมกันที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ร่วมกับผู้แทนจาก 15 ประเทศผู้ผลิตน้ำมันและประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่อื่นๆ โดยที่แนวโน้มราคาน้ำมันโลกกำลังขยับขึ้นไป จนทะลุขีดสูงสุดในรอบ 6 เดือน ไปอยู่ในระดับสูงกว่า 60 ดอลลาร์
รัฐมนตรีพลังงาน สตีเวน ชู ของสหรัฐฯ กล่าวต่อที่ประชุมแถลงข่าวว่า ถ้าหากราคาน้ำมันเกิดพุ่งลิ่วขึ้นไปมากๆ แล้ว ก็จะกลายเป็นปัจจัยที่ชะลอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ทีเดียว
ขณะที่ เคลาดิโอ สกาโจลา รัฐมนตรีพลังงานของอิตาลีบอกว่า การที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ มีส่วนช่วยในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ก็ทำให้การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันมีความน่าสนใจน้อยลง ซึ่งเท่ากับไม่ได้สร้างหลักประกันให้เกิดเสถียรภาพในระยะยาว ทั้งนี้เขาเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องให้มีราคาที่เป็นธรรมและไม่ผันผวน ซึ่งสามารถเป็นหลักประกันให้เศรษฐกิจโลกเจริญเติบโต และก็จูงใจให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ
ราคาน้ำมันเวลานี้ทะยานขึ้นเป็นเกือบสองเท่าตัวของเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาลงต่ำสุดๆ และบัดนี้ก็ขยับอยู่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์ซึ่งซาอุดีอาระเบียเคยบอกว่า เป็นระดับที่ตนเองอยู่ได้เพื่อช่วยเยียวยาให้เศรษฐกิจโลกกลับคืนสู่ภาวะเติบโต
รัฐมนตรีน้ำมันของแอลจีเรียแถลงว่า ในการประชุมระดับรัฐมนตรีน้ำมันขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย วันพฤหัสบดี(28)นี้ ทางโอเปกคงจะไม่มีการตัดหดเพดานการผลิตเพิ่มขึ้นอีก เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบียก็บอกว่า โอเปกน่าที่จะยืนอยู่ที่เดิม
รัฐมนตรีน้ำมัน อาลี อัลไนมี ของซาอุดีอาระเบีย ให้ความเห็นว่า ในที่สุดแล้วทั้งระดับราคาและอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันต่างจะขยับสูงขึ้นทั้งคู่ แต่เขาปฏิเสธไม่ยอมคาดการณ์ว่าเมื่อใดที่ราคาจะไปถึงขีด 75 ดอลลาร์ ซึ่งฝ่ายผู้ผลิตบอกว่าจำเป็นสำหรับการจูงใจให้มีการลงทุนเพิ่ม
"คำว่าในที่สุดแล้ว อาจจะมาถึงในวันพรุ่งนี้หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่มันจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนจะเป็นเมื่อไรนั้นผมไม่ทราบ" อัลไนมีกล่าว
ทางด้านรัฐมนตรีพลังงาน ชาคิบ เคลิล ของแอลจีเรีย กล้าทำนายทายทักมากกว่า โดยระบุว่า ราคาน้ำมันอาจขึ้นไปแตะ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในสิ้นปี 2010 หากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว แต่เขาก็เตือนด้วยว่า ราคาที่ทะยานขึ้นในช่วงเร็วๆ นี้กำลังถูกขับดันโดยการเก็งกำไรและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว มากกว่ามาจากปัจจัยพื้นฐาน
บรรดาผู้นำด้านพลังงานในที่ประชุมคราวนี้ต่างเห็นพ้องกันว่า วิกฤตการเงินได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการลงทุนด้านการผลิตน้ำมันในระยะยาว โดยที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ(ไออีเอ) ก็เตือนว่า การลงทุนในการผลิตน้ำมันและก๊าซในปีนี้จะลดลงถึง 21% เมื่อเทียบกับปี 2008
โรแบร์โต โปลี ประธานเอนี่ บริษัทน้ำมันใหญ่ของอิตาลีชี้ว่า ระดับราคาน้ำมันที่จะกระตุ้นการลงทุนแต่ไม่กระทบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นควรอยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ในขณะที่อุมแบร์โต ควอดริโน ประธานฝ่ายบริหารของเอดิสัน บอกว่าน่าจะอยู่ที่ 60-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล