เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ เหนือ 63 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ (27) ก่อนหน้าประชุมโอเปกท่ามกลางแรงคาดหมายว่าเศรษฐกิจที่ส่อเค้าฟื้นตัวอาจสนับสนุนอุปสงค์ ขณะที่วอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างแรง หลังเจเนรัลด์ มอเตอร์ส มีแววต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล -- สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่เช่นกัน
ราคาน้ำมันขยับขึ้นแม้ว่าเมื่อวันพุธ (27) ชาติสมาชิกโอเปกได้ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงกำลังการผลิต ณ ที่ประชุมกรุงเวียนนา ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ (28) โดยชี้ว่าสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจช่วยผ่อนคลายปัญหาการผลิตที่เกินความต้องการในปัจจุบัน
นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย กล่าวเมื่อวันพุธ (27) ว่า ในปัจจุบันอุปทานน้ำมันล้นตลาด แต่ด้วยอุปสงค์ที่กำลังเพิ่มขึ้นอาจช่วยดึงมันเข้าสู่ความสมดุล
นอกจากนี้ รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ยังกล่าวยืนยันว่า โอเปกไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะลดเพดานการผลิตน้ำมันในช่วงนี้ เพราะการกระทำดังกล่าว จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีสัญญาณฟื้นตัวกลับให้ย่ำแย่ลงไปอีก และการประชุมในวันพฤหัสบดี (28) โอเปกควรคงกำลังผลิตไว้ในระดับเดิม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงอย่างแรงในวันพุธ (27) เหตุนักลงทุนระมัดระวังการลงทุน หลังเจเนรัลด์ มอเตอร์ส มีแววต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายและตลาดยังถูกฉุดจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ร่วงลง 173.47 จุด (2.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,300.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.27 จุด (1.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 893.06 จุด แนสแดก ลดลง 19.35 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,731.08 จุด