xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน “หวัดเม็กซิโก” ใกล้เป็นโรคระบาดแพร่ไปทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักเดินทางสามหน้าหากป้องกันที่สนามบินนานาชาติของกรุงเม็กซิโกซิตี้
เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯยืนยัน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกอยู่ในภาวะจวนเจียนจะระบาดใหญ่กว้างขวางทั่วโลก ถึงแม้เท่าที่ปรากฏในเวลานี้ การระบาดจะบังเกิดขึ้นอย่างรุนแรงเฉพาะแต่ที่แดนจังโก้ โดยทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 150 ราย

เอพริล จอห์นสัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาระบาดวิทยาและการสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยเพอร์ดิว ระบุว่า ไวรัสดังกล่าว “กำลังจะกลายเป็นโรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง (pandemic) อย่างแน่นอน” ทั้งนี้ การเดินทางทางอากาศทำให้ไข้หวัดใหญ่นี้ กระจายไปและระบาดในประเทศต่างๆ ซึ่งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อทั้งในเมืองเล็กและเมืองใหญ่หลายๆ แห่งทั่วโลก

ส่วน ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ บอกว่า เขารู้สึก “วิตกอย่างยิ่ง” เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

“เรากำลังเผชิญหน้ากับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ดูเหมือนกำลังคืบคลานแผ่ไปทั่วชุมชนของเรา” ทั้งนี้ เขาพูดเช่นนี้โดยอ้างอิงถึงการที่องค์การอนามัยโลก ประกาศเมื่อวันจันทร์ (27) ยกระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดขึ้นสู่ระดับ 4 ในมาตรวัดที่มีทั้งสิ้น 6 ระดับ โดยที่ระดับ 4 ก็คือ ขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่เชื้อโรคจะกลายเป็น โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง

ข้อมูลในตอนเช้าวันพุธ (29) ของทางการสหรัฐฯ ระบุว่า มีผู้ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก เพิ่มขึ้นเป็น 66 ราย โดยในจำนวนนี้มีเสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กทารกในมลรัฐเทกซัส นอกจากนั้น มลรัฐที่เกิดการระบาดยังเพิ่มขึ้นอีก 2 มลรัฐ คือ อินดีแอนา และ นิวเจอร์ซีย์ รวมกับของเดิม 5 มลรัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย เทกซัส แคนซัส นิวยอร์ก และโอไฮโอ ก็กลายเป็น 7 มลรัฐ

องค์การอนามัยโลก ระบุว่า หากไวรัสดังกล่าวแพร่กระจายทั่วสหรัฐฯ ก็จะมีการเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 5 ซึ่งแสดงว่ามีการติดต่อของโรคจากคนสู่คนในประเทศอย่างน้อย 2 ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน

แต่จนถึงขณะนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ยืนยันว่ามีการแพร่เชื้อจากคนสู่คนในสหรัฐฯ เพียง 1 ราย นอกนั้นเป็นกรณีผู้ติดเชื้อซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากเม็กซิโกซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดครั้งนี้

ในวันอังคาร (28) มีอีก 3 ประเทศที่ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโก ได้แก่ คอสตาริกา เยอรมนี และออสเตรีย ในขณะที่แคนาดา ยุโรป อิสราเอล และนิวซีแลนด์ ต่างก็รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากขึ้น

บริษัท เวอราเทค ซึ่งใช้ระบบวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์และการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญในการติดตามและวิเคราะห์ภัยคุกคามใหม่ๆ ต่อโลก พบว่า “โรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมากในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก”

บ๊อบ ฮาร์ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเวอราเทค บอกว่า “มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมาก และเกินกว่าระดับการติดตามขั้นปกติของเรา สิ่งที่เรามองเห็นก็คือสถานการณ์จะรุนแรง และจะมีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางมากและเร็วมากทีเดียว”

ทั้งนี้ ฮาร์ต ระบุว่า บริษัทของเขาตรวจพบสัญญาณการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในเม็กซิโก 18 วันก่อนหน้าที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ (24)

ทว่า ทั่วโลกก็มีการเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ได้ผ่านการทดสอบจากโรคซาร์สและไข้หวัดนกมาแล้วดังที่ ดร.ไมล์ส์ ดรัคแมน แห่งเอสโอเอส อินเตอร์เนชันแนล บริษัทให้บริการทางการแพทย์แห่งหนึ่งซึ่งมีส่วนร่วมในการวางแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรค ระบุว่า "ทุกคนคิดว่าซาร์ส์และไข้หวัดนกที่ระบาดในช่วงปี 2004 และ 2005 จะกลับมาอีก ก็เลยกดดันให้รัฐบาลและภาคธุรกิจวางแผนรับมือกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ตอนนี้เราจึงมีความพร้อมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเคยมีบททดสอบมาแล้ว”

ส่วน เจเน็ต นาโปลิตาโน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กล่าวว่าหากเกิดการแพร่ระบาด สหรัฐฯตะมียาต้านไวรัสเพียงพอกับความต้องการ “เรามียารักษาโรคได้ถึง 50 ล้านชุดสำหรับการรักษาจนหาย ไม่ใช่แค่ 50 ล้านโดส”

อย่างไรก็ตาม จอห์นสันแห่งมหาวิทยาลัยเพอร์ดิว บอกว่า “โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง เป็นการบ่งชี้ว่าไวรัสนี้จะแพร่กระจายเป็นวงกว้าง แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีผู้เสียชีวิตอย่างมากมายเหมือนกับ โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต” เธอยกตัวอย่างว่า เมื่อปี 1976 ในสหรัฐฯ เคยมีประกาศว่าเกิดไข้หวัดใหญ่หมูในระดับ โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง แต่ปรากฏว่า มีคนเสียชีวิตเพียงรายเดียวเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น