เอเจนซี – ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ ชี้ สิงคโปร์ จะเป็นประเทศที่เศรษฐกิจอ่อนตัวลงมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะหดตัวลงเกือบ 5% ในปีนี้ ขณะที่ ไทย จะเผชิญภาวะถดถอยร้ายแรงที่สุดในรอบ 11 ปี สะท้อนจากภาพการส่งออกที่ทรุดตัวทั่วเอเชีย
ส่วนเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย จะเป็นเพียง 2 แห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ที่จะมีการเติบโตขึ้น แม้จะโตช้ากว่าหลายปีก่อนอย่างมากก็ตาม โดยอินโดนีเซ๊ยจะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าส่งออกตกต่ำ
ตามการคาดการณ์ของผลสำรวจรายไตรมาสของรอยเตอร์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสิงคโปร์ หรือมูลค่าสินค้า และบริการทั้งหมด น่าจะหดตัวลง 4.9% ในปี 2009 ซึ่งตกต่ำครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติการณ์ หลังจากมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ย 6.4% มาตลอด 5 ปี
ในทางกลับกัน เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอย่างอินโดนีเซีย คาดว่า จะขยายตัว 4.0% ในปีนี้ และ 5.1% ในปี 2010 เนื่องจากสินค้าส่งออกเป็นเพียง 1 ใน 3 ของจีดีพี ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านมากนัก
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดังกล่าวตกลงจาก 4.8% ที่เคยประเมินไว้ในผลสำรวจเมื่อ 3 เดือนก่อน ด้วยการส่งออกอ่อนตัว และราคาสินค้าตกต่ำ ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่นักวิเคราะห์ ชี้ว่า รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ในแผนกระตุ้นมูลค่าร่วม 6,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนใน มาเลเซีย และ ไทย ความต้องการสินค้าได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ถดถอยลง ซึ่งคาดกันว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัว 1.5% ในปีนี้ ขณะที่มาเลเซียจะมีการหดตัว 1.2% แม้ว่าจะออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 16,000 ล้านดอลลาร์ หลังการส่งออกในเดือนมกราคมตกลง 28% ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี
ส่วนเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย จะเป็นเพียง 2 แห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ที่จะมีการเติบโตขึ้น แม้จะโตช้ากว่าหลายปีก่อนอย่างมากก็ตาม โดยอินโดนีเซียจะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าส่งออกตกต่ำ
ตามการคาดการณ์ของผลสำรวจรายไตรมาสของรอยเตอร์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสิงคโปร์ หรือมูลค่าสินค้า และบริการทั้งหมด น่าจะหดตัวลง 4.9% ในปี 2009 ซึ่งตกต่ำครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติการณ์ หลังจากมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ย 6.4% มาตลอด 5 ปี
ในทางกลับกัน เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอย่างอินโดนีเซีย คาดว่า จะขยายตัว 4.0% ในปีนี้ และ 5.1% ในปี 2010 เนื่องจากสินค้าส่งออกเป็นเพียง 1 ใน 3 ของจีดีพี ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านมากนัก
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดังกล่าวตกลงจาก 4.8% ที่เคยประเมินไว้ในผลสำรวจเมื่อ 3 เดือนก่อน ด้วยการส่งออกอ่อนตัว และราคาสินค้าตกต่ำ ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ในแผนกระตุ้นมูลค่าร่วม 6,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนใน มาเลเซีย และไทย ความต้องการสินค้าได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ถดถอยลง ซึ่งคาดกันว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัว 1.5% ในปีนี้ ขณะที่มาเลเซียจะมีการหดตัว 1.2% แม้ว่าจะออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 16,000 ล้านดอลลาร์ หลังการส่งออกในเดือนมกราคมตกลง 28% ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี
ข้อมูลจีดีพีของไทยในไตรมาสแรกนั้น คาดว่า จะได้รับการยืนยันในเดือนหน้า ว่า เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคแห่งนี้เข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากการเติบโตหดตัวลง 6.1% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2008 และการส่งออกลดลงถึง 25% ในเดือนมกราคม
การคาดการณ์ระบุว่า เศรษฐกิจของไทยจะหดตัวลง 1.5% ในปีนี้ กลับจาก 2.8% ในการทำนายเมื่อ 3 เดือนก่อน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แท้จริง 2.6% ในปี 2006
ด้าน นักวิเคราะห์ชี้ว่า จำนวนคนว่างงานหลายหมื่นคน ทั้งจากภาคการส่งออก และท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา การใช้แผนงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และการลดอัตราดอกเบี้ย ก็ไม่สามารถกระตุ้นความต้องการ เพื่อชดเชยความอ่อนแอของภาคส่งออกได้
ส่วน ฟิลิปปินส์ ผลสำรวจของรอยเตอร์ คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 2.3% ในปีนี้ ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ 3.3% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และน้อยกว่าที่รัฐบาลคาดไว้ว่าต้องโตอย่างน้อย 3.7% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยิ่งถดถอยสกัดการส่งออก และทำให้การไหลเวียนของเงินชะลอตัว
