เอเอฟพี - รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงวันพฤหัสบดี(12)ว่า อัตราการหดตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ปี 2008 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังคงถือเป็นภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 35 ปี
ตัวเลขที่ได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการระบุว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกหดตัวลง 12.1 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากความต้องการรถยนต์ สินค้าไฮเทคและสินค้าส่งออกอื่น ๆ ของญี่ปุ่นในตลาดโลกหดตัวลงอย่างรุนแรง
ทาโร อาโซะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เป็นการยืนยันว่าเศรษฐกิจยังคงเลวร้ายลงอย่างเนื่อง
ก่อนหน้านี้ มีการประกาศประมาณการขั้นต้นสำหรับเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ว่าหดตัวลงประมาณ 12.7 เปอร์เซ็นต์ แต่แม้ว่าตัวเลขจริงจะต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ก็ยังคงถือว่าเป็นตัวเลขเศรษฐกิจรายไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 1974 เป็นต้นมา
แจน แลมเบร็กต์ นักยุทธศาสตร์ของ ราโบแบงก์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ตัวเลขการหดตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าประมาณการนั้น เป็นผลมาจากตัวเลขสินค้าคงคลังที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็มีสินค้าคงคลังมากๆ ย่อมไม่ได้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจแต่ประการใด
เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งเคยเชื่อกันว่า มีภูมิคุ้มกันต่อวิกฤตการณ์ทางการเงินระลอกนี้ กลับกำลังหดตัวลงรวดเร็วกว่าทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นก็ยอมรับว่าวิกฤตการณ์ครั้งนี้รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
เดวิด โคเฮน ผู้อำนวยการฝ่ายการพยากรณ์เศรษฐกิจเอเชีย ของ แอคชั่น อีโคโนมิคส์ ในสิงคโปร์กล่าวว่า ในปี 2009 นี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นแต่อย่างใด การส่งออกที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรงในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว น่าจะลามมาถึงปี 2009 ด้วย โดยเขาคาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวลงประมาณ 5.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรียกได้ว่ารุนแรงที่สุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่วันนี้ มีการประกาศตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดประจำเดือนมกราคม ซึ่งปรากฏว่าขาดดุลเป็นครั้งแรก โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการส่งออกที่ลดต่ำลงเกือบครึ่งหนึ่งของปีที่แล้ว ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าไตรมาสแรกปีนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลงอีก
การฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงทศวรรษหลังปีคริสต์ศักราช 1990 ของญี่ปุ่นนั้นเกิดขึ้นจากแรงขับเคลื่อนของภาคการส่งออกที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเศรษฐกิจโลกทรุดตัวลง ความต้องการสินค้าญี่ปุ่นก็ลดต่ำลงตามไปด้วย ทำให้บริษัทธุรกิจของญี่ปุ่นต้องเลิกจากคนงานหลายแสนคน
เกรแฮม เดวิส ผู้อำนวยการ อีโคโนมิสต์ อินเทลิเจนซ์ ยูนิต ในกรุงโตเกียวกล่าวว่า ณ เวลานี้ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์สำหรับเศรษฐกิจญี่ปุ่นแต่อย่างใด และเชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้ไปจนกว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว
นักวิเคราะห์หลายคนเห็นพ้องกันว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวต่อเนื่องไปตลอดปี 2009 นี้แน่นอน โดยคาดว่าจะถึงจุดต่ำสุดในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม.