เอเจนซี - มาเลเซียวันนี้ (10) ประกาศแผนมูลค่า 60,000 ล้านริงกิต หรือ 16,2700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศที่พึ่งพาการส่งออกท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ
แผนกระตุ้นดังกล่าวซึ่งประกาศโดยรองนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก นับเป็นการเปลี่ยนฉับพลับจากแผนกระตุ้นรอบแรก : ซึ่งมีมูลค่าเพียง 7,000 ล้านริงกิต หรือ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.1 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั้งยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาตร์คาดไว้ที่ 30,000-35,000 ล้านริงกิตด้วย
ราซัก แถลงต่อรัฐสภาว่า แผนกระตุ้นฉบับย่อมมูลค่า 60,000 ริงกิต เป็นแผนกระตุ้นที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลประกาศใช้มา ซึ่งคิดเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี จะถูกนำมาปฏิบัติใช้ใน 2 ปี คือ ปี 2009 และ 2010
นาจิบ ซึ่งจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 31 เดือนมีนาคมนี้ วิจารณ์การคาดการณ์ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2009 ของรัฐบาลอย่างรุนแรง ซึ่งคาดว่า จะอยู่ระหว่างการหดตัว 1 เปอร์เซ็นต์และขยายตัว 1 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้แล้วที่ 3.5 เปอร์เซ็นต์
มาเลเซีย ซึ่งมีประชากร 27 ล้านคน และเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ตามหลังจากฮ่องกง และ สิงคโปร์ เนื่องจากขนาดของเศรษฐกิจ มีอัตราว่างงานเพิ่มสูงมากขึ้น เมื่อบรรดาบริษัทอย่าง เวสเทิร์น ดิจิตัล และพานาโซนิค ต่างพากันปิดโรงงาน
ทั้งนี้ ตามข้อมูลล่าสุด ระบุว่า อัตราส่งออกของมาเลเซียดิ่งลง 28 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนหน้านี้ และมีอัตราขยายตัวทางเศรษบกิจเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2008 เทียบกับปีก่อนหน้านั้น