เอเจนซี - ราคาน้ำมันร่วงลง 1 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์(6) หลังตัวเลขปลดคนงานสหรัฐฯสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี ส่งสัญญาณถึงอุปสงค์พลังงานที่ยังคงอ่อนแอต่อไป สวนทางตลาดหุ้นกลับดีดขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดหมายว่าสถิติคนว่างงานอาจเป็นตัวเร่งให้วอชิงตันผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยตัวเลขปลดคนงาน 598,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม มากที่สุดในรอบ 34 ปี นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 1974 ขณะอัตราคนว่างงานทั่วประเทศก็เพิ่มขึ้นเป็น 7.6 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกัน ตัวเลขคนตกงานในเดือนมกราคม นับว่าแย่กว่า 525,000 ตำแหน่งที่นักเศรษฐศาสตร์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ ยังคาดอัตราว่างงานทั่วประเทศไว้เพียง 7.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดตัวลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 46.21 ดอลลาร์
"น้ำมันดิบทดสอบระดับต่ำกว่า 40 ดอลลาร์จากตัวเลขว่างงาน แต่ข้อเท็จจริงที่ทำให้ราคาไม่ดิ่งลงไปมากกว่านี้มาจากตลาดหุ้นที่ยังคงขยับขึ้น โดยพื้นฐานแล้วการซื้อขายน้ำมันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีทั้งขยับขึ้นไปเหนือและทรุดลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์" ทอม ไนท์ นักวิเคราะห์ทรูแมนอาร์โนลด์กล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(6) ดีดตัวขึ้นถ้วนหน้า หลังข้อมูลอันร้ายกาจเกี่ยวกับการว่างงานชวนให้นักลงทุนเชื่อว่าวอชิงตันจะลงมือคลอดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่อย่างเร่งด่วน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ อยู่ที่ระดับ 8,279.47 จุด เพิ่มขึ้น 216.40 จุด(2.68 เปอร์เซ็นต์) แนสแดค อยู่ที่ระดับ 1,591.71 จุด เพิ่มขึ้น 45.47 จุด(2.94 เปอร์เซ็นต์) และเอสแอนด์พี อยู่ที่ 868.51 จุด เพิ่มขึ้น 22.66 จุด (2.68 เปอร์เซ็นต์)