เอเจนซี - ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ของเกาหลีใต้ ประกาศเมื่อวันศุกร์ (23) ผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว ปรากฏว่า ประสบภาวะการขาดทุนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเป็นการตามรอยพวกบริษัทไฮเทคอีกจำนวนหนึ่ง อย่างเช่น ไมโครซอฟท์ และโนเกีย ซึ่งต่างกำลังย่ำแย่จากราคาที่ดิ่งลง ขณะที่อุปสงค์ความต้องการของผู้บริโภคก็ลดฮวบ เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ซัมซุง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปหน่วยความจำและจอภาพแบบแอลซีดีรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก แถลงว่า มีผลประกอบการจากการดำเนินงานขาดทุน 937,000 ล้านวอน (682 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว นับเป็นตัวเลขขาดทุนสูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้กว่า 2 เท่าตัว
ลีเจือง นักวิเคราะห์ของ ฮานา แดตู ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า ซัมซุงมีแนวโน้มจะขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก หากเศรษฐกิจโลกยังทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งแรกของปีนี้ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
“แม้จะมีสัญญาณว่าราคาชิป และจอภาพแอลซีดีเริ่มทรงตัวบ้างแล้วในระยะนี้ แต่ก็ยากที่จะคาดเดาว่า ทิศทางอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุปสงค์ในตลาดโลกยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง” ลี กล่าว
ซัมซุงซึ่งยังเป็นผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากโนเกีย ปฏิเสธที่จะชี้แนะผลประกอบการในอนาคต หรือเปิดเผยทิศทางการลงทุนในปีนี้ โดยกล่าวแต่เพียงว่า จะพิจารณาการลงทุนอย่างอนุรักษนิยมที่สุดเท่านั้น
ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในเอเชีย ยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลังมีกระแสข่าวเชิงลบออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (22)
ในกรุงโตเกียว ราคาหุ้นของโซนี่ คอร์ป ผู้ผลิตโทรทัศน์จอแบนบราเวีย กล้องดิจิตอลไซเบอร์ชอต และเครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชัน ดิ่งลง 7 เปอร์เซ็นต์ หลังบริษัทแถลงวันพฤหัสบดี ว่า ผลประกอบการในปีนี้อาจประสบภาวะขาดทุน 2,900 ล้านดอลลาร์
โซนี่ ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ประสบภาวะขาดทุนมากกว่าความคาดหมายครั้งนี้ เป็นผลมาจากอุปสงค์ในตลาดที่อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ค่าเงินเย็นแข็งตัวขึ้น ประกอบกับบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างส่วนธุรกิจอิเลกทรอนิกส์ ซึ่งจะดำเนินปรับลดต้นทุนตามแผนเดิมต่อไป โดยคาดว่า จะลดต้นทุนดำเนินการได้ไม่น้อยกว่า 250,000 ล้านเยน ภายในเดือนมีนาคม ปี 2010 สถานการณ์ของตลาดสินค้าไฮเทคในยุโรปและสหรัฐฯก็ไม่ได้แตกต่างไปจากภูมิภาคเอเชียเท่าไรนัก เมื่อวันพฤหัสบดี ไมโครซอฟท์ คอร์ป ช็อกตลาดวอลล์สตรีทด้วยการประกาศ ว่า มีแผนจะปลดคนงานออกประมาณ 5,000 คนในปีนี้ ทั้งยังระบุเป็นนัยด้วยว่า ผลประกอบการใน 2 ไตรมาสข้างหน้าจะตกต่ำลงอย่างแน่นอน
ริชาร์ด วิลเลียมส์ นักวิเคราะห์ของ ครอส รีเสิร์ช กล่าวว่า ธุรกิจของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการทรุดตัวของตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี และโน้ตบุ๊กราคาถูก ไมโครซอฟท์นั้น ไม่เคยปลดคนงานมาก่อน ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ จึงเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจเลวร้ายเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
ใน ฟินแลนด์ บริษัท โนเกีย ผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 1 ของโลกก็แถลงว่า ตัวเลขผลกำไรในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วลดต่ำลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก และเตือนว่า ตลาดเครื่องโทรศัพท์มือถือในปีนี้อาจจะตกต่ำถึงขีดสุด ยอดจำหน่ายอาจลดต่ำลงกว่าในปี 2008 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ยังมีบริษัทเทคโนโลยีบางแห่งสามารถทำกำไรได้ในรอบไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว กล่าวคือ กูเกิล ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินทางอินเทอร์เน็ต แจ้งในวันพฤหัสบดี ว่า ยังมีอัตรารายได้เพิ่มขึ้น 18% โดยที่ก่อนหน้านั้น แอปเปิล และ ไออีเอ็ม ก็แถลงว่า ยังมีกำไรเช่นกัน
ซัมซุง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปหน่วยความจำและจอภาพแบบแอลซีดีรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก แถลงว่า มีผลประกอบการจากการดำเนินงานขาดทุน 937,000 ล้านวอน (682 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว นับเป็นตัวเลขขาดทุนสูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้กว่า 2 เท่าตัว
ลีเจือง นักวิเคราะห์ของ ฮานา แดตู ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า ซัมซุงมีแนวโน้มจะขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก หากเศรษฐกิจโลกยังทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งแรกของปีนี้ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
“แม้จะมีสัญญาณว่าราคาชิป และจอภาพแอลซีดีเริ่มทรงตัวบ้างแล้วในระยะนี้ แต่ก็ยากที่จะคาดเดาว่า ทิศทางอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุปสงค์ในตลาดโลกยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง” ลี กล่าว
ซัมซุงซึ่งยังเป็นผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากโนเกีย ปฏิเสธที่จะชี้แนะผลประกอบการในอนาคต หรือเปิดเผยทิศทางการลงทุนในปีนี้ โดยกล่าวแต่เพียงว่า จะพิจารณาการลงทุนอย่างอนุรักษนิยมที่สุดเท่านั้น
ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในเอเชีย ยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลังมีกระแสข่าวเชิงลบออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (22)
ในกรุงโตเกียว ราคาหุ้นของโซนี่ คอร์ป ผู้ผลิตโทรทัศน์จอแบนบราเวีย กล้องดิจิตอลไซเบอร์ชอต และเครื่องเล่นเกมเพลย์สเตชัน ดิ่งลง 7 เปอร์เซ็นต์ หลังบริษัทแถลงวันพฤหัสบดี ว่า ผลประกอบการในปีนี้อาจประสบภาวะขาดทุน 2,900 ล้านดอลลาร์
โซนี่ ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ประสบภาวะขาดทุนมากกว่าความคาดหมายครั้งนี้ เป็นผลมาจากอุปสงค์ในตลาดที่อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ค่าเงินเย็นแข็งตัวขึ้น ประกอบกับบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างส่วนธุรกิจอิเลกทรอนิกส์ ซึ่งจะดำเนินปรับลดต้นทุนตามแผนเดิมต่อไป โดยคาดว่า จะลดต้นทุนดำเนินการได้ไม่น้อยกว่า 250,000 ล้านเยน ภายในเดือนมีนาคม ปี 2010 สถานการณ์ของตลาดสินค้าไฮเทคในยุโรปและสหรัฐฯก็ไม่ได้แตกต่างไปจากภูมิภาคเอเชียเท่าไรนัก เมื่อวันพฤหัสบดี ไมโครซอฟท์ คอร์ป ช็อกตลาดวอลล์สตรีทด้วยการประกาศ ว่า มีแผนจะปลดคนงานออกประมาณ 5,000 คนในปีนี้ ทั้งยังระบุเป็นนัยด้วยว่า ผลประกอบการใน 2 ไตรมาสข้างหน้าจะตกต่ำลงอย่างแน่นอน
ริชาร์ด วิลเลียมส์ นักวิเคราะห์ของ ครอส รีเสิร์ช กล่าวว่า ธุรกิจของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการทรุดตัวของตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี และโน้ตบุ๊กราคาถูก ไมโครซอฟท์นั้น ไม่เคยปลดคนงานมาก่อน ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ จึงเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจเลวร้ายเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
ใน ฟินแลนด์ บริษัท โนเกีย ผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 1 ของโลกก็แถลงว่า ตัวเลขผลกำไรในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วลดต่ำลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก และเตือนว่า ตลาดเครื่องโทรศัพท์มือถือในปีนี้อาจจะตกต่ำถึงขีดสุด ยอดจำหน่ายอาจลดต่ำลงกว่าในปี 2008 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ยังมีบริษัทเทคโนโลยีบางแห่งสามารถทำกำไรได้ในรอบไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว กล่าวคือ กูเกิล ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินทางอินเทอร์เน็ต แจ้งในวันพฤหัสบดี ว่า ยังมีอัตรารายได้เพิ่มขึ้น 18% โดยที่ก่อนหน้านั้น แอปเปิล และ ไออีเอ็ม ก็แถลงว่า ยังมีกำไรเช่นกัน