xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯเรียกร้องประเทศทั่วโลก จับมือเร่งอัดฉีดเงินรัฐกระตุ้นศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับท็อปของประธานาธิบดี บารัค โอบามา
ไฟแนนเชียลไทมส์ - ลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับท็อปของประธานาธิบดี บารัค โอบามา เรียกร้องให้บรรดาผู้นำของโลกช่วยกันอัดฉีดเงินทุนสาธารณะเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ เพื่อจะได้เป็นการประสานร่วมมือกันในการเพิ่มพูนอุปสงค์ความต้องการสินค้าและบริการต่างๆ จะได้ช่วยกันยกโลกให้พ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ในการให้สัมภาษณ์พิเศษหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ซัมเมอร์สซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่าเวลานี้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลประเทศต่างๆ จะต้องเพิ่มพูนการใช้จ่ายกันในช่วงระยะสั้น โดยต้องถือเรื่องนี้มีความเหนือกว่าเป้าหมายในระยะยาวไกล ที่จะพยายามแก้ไขภาวะไม่สมดุลระดับโลก แม้ว่าเรื่องภาวะไม่สมดุลนี้ ทางนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่าเป็นต้นเหตุสำคัญของวิกฤตการเงินคราวนี้ก็ตามที

เขาบอกว่า คณะรัฐบาลสหรัฐฯเองนั้นไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องใช้ปฏิบัติการอย่างแข็งขันของภาครัฐเพื่อ "รักษาระบบตลาดให้รอดพ้นจากความเกินเลยทั้งหลายของตัวมันเอง"

การแสดงความเห็นเช่นนี้ของเขา ซึ่งมีขึ้นก่อนหน้าการประชุมระดับผู้นำของกลุ่มจี 20 ในกรุงลอนดอนต้นเดือนหน้า ทำให้เป็นที่ชัดเจนว่า คณะรัฐบาลสหรัฐฯต้องการให้พวกชาติอุตสาหกรรมทั้งหลาย ร่วมส่วนช่วยกันแบ่งเบาความรับผิดชอบ ในเรื่องการวางแผนดำเนินการเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูของเศรษฐกิจโลกชนิดที่มีอุปสงค์เป็นตัวชี้นำ และไม่ได้เชื่อว่าภาระนี้ควรตกเป็นของจีนเท่านั้น

"ในวาระเรื่องความไม่สมดุลของทั่วโลกอันเก่านั้น เน้นไปที่ให้จีนสร้างอุปสงค์ให้เพิ่มมากขึ้น ส่วนอเมริกาให้ลดอุปสงค์ลงมา แต่มาถึงตอนนี้ไม่มีใครคิดหรอกว่านั่นยังเป็นวาระที่ถูกต้อง" ซัมเมอร์สบอก

"ในขณะปัจจุบันนี้ ไม่มีสถานที่ใดเลยที่ควรจะลดทอนการร่วมส่วนของตนในอุปสงค์ของทั่วโลก มันต้องเป็นวาระแห่งการสร้างอุปสงค์ไปทั่วทั้งสากลอย่างแท้จริง"

ซัมเมอร์สยอมรับว่า เมื่อถึงช่วงระยะกลาง สหรัฐฯและพวกชาติตะวันตกควรที่จะหวนคืนมาใช้จ่ายเพียงเท่าที่ตนเองจะหารายได้มาได้ ทว่าสำหรับเวลานี้แล้ว ทุกๆ ประเทศควรที่จะเพิ่มการใช้จ่ายให้สูงลิ่วเข้าไว้

"จุดโฟกัสทางด้านเศรษฐกิจมหภาคอันถูกต้องสำหรับกลุ่ม จี20 คือการมุ่งไปที่อุปสงค์ในทั่วโลก และโลกเราก็จำเป็นต้องได้อุปสงค์ในทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอีก" เขากล่าว

ถึงแม้ซัมเมอร์สซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีคลังคนสุดท้ายของประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน ในยุคทศวรรษ 1990 จะถูกจับตามองอย่างกว้างขวางว่าเป็นปากเสียงสำคัญที่สุดในทำเนียบขาวของพวกนิยมตลาดเสรี แต่ในคราวนี้เขากลับบอกว่า ทัศนะที่มองว่าตลาดจะสามารถสร้างเสถียรภาพให้ตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอเรื่อยไปนั้น เป็นทัศนะที่ "ได้ถูกโจมตีทำลายถึงแก่ชีวิตไปเสียแล้ว"

ในเวลานี้ซึ่งพวกพรรครีพับลิกันกำลังวิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้นทุกที ต่อนโยบายการใช้จ่ายอย่างแข็งขันเพื่อต่อสู้กับวิกฤตของทำเนียบขาวนั้น ซัมเมอร์สก็สามารถกล่าวแก้ต่างให้แก่การแทรกแซงอย่างมหาศาลของรัฐบาล โดยไม่มีท่าทีเศร้าเสียใจอะไรเลย

"แนวคิดที่ว่าเศรษฐกิจสามารถที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับตนเองได้นั้น ปกติแล้วเป็นแนวคิดที่ถูกต้อง แต่มันก็สามารถผิดพลาดได้สักสองสามครั้งในช่วงเวลา 100 ปี ... มีความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิบัติการอย่างเป็นพิเศษของภาคสาธารณะ ในช่วงเวลาเหล่านั้น"

อิทธิพลในทำเนียบขาวของซัมเมอร์สเวลานี้ต้องถือว่ามีอยู่เป็นอันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงการเริ่มต้นดำรงตำแหน่งของรัฐมนตรีคลัง ทิม ไกธ์เนอร์ ซึ่งต้องหมองมัวจากการถูกเปิดโปงว่า ในอดีตเขาไม่ได้จ่ายภาษีให้ถูกต้องเป็นจำนวนกว่า 34,000 ดอลลาร์

ซัมเมอร์สยังได้แก้ต่างอย่างแข็งขันให้แก่คณะรัฐบาลโอบามา ที่มุ่งโฟกัสไปแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในสหรัฐฯซึ่งเป็นปัญหาเก่าแก่ตกทอดกันมานาน แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ยืนยันว่าจุดมุ่งหมายเบื้องลึกของการดำเนินการต่างๆ เหล่านี้ ควรที่จะเป็นการฟื้นตัวให้ระบบตลาดทุนนิยมกลับมีสุขภาพแข็งแรงกันอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น