เอเอฟพี - องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เมื่อวันพุธ(18)เผยแพร่รายงานล่าสุดระบุว่า วิกฤตการณ์การเงินโลกจะส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียอย่างหนัก โดยกว่า 140 ล้านคนจะกลายเป็นคนยากจน ส่วนอีกราว 23 ล้านคนจะตกงานในปีนี้ นอกจากนั้นการอพยพจากชนบทเข้าสู่เมืองก็จะชะลอตัวลง เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ที่ถูกลอยแพจะกลับไปทำงานในภาคเกษตรซึ่งมีรายได้ต่ำ
นอกจากนั้น ไอแอลโอยังระบุด้วยว่า ภาวะการว่างงานในเอเชียที่สูงขึ้น จะทำให้ประเทศต่างๆ หันไปใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการงบประมาณ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาความไม่สงบในสังคมบานปลายออกไป
"จากการจำลองสถานการณ์ดังกล่าว เราคาดหมายว่าจะมีคนยากจนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยอาจสูงกว่า 140 ล้านคนในปี 2009 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะถดถอยในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่มีอัตราความยากจนภาคแรงงานอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อปี 2004"
ไอแอลโอระบุด้วยว่า "การคาดหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการรายงานตัวเลขเท่านั้น หากยังบ่งบอกถึงความเสี่ยงอย่างแท้จริง ที่เด็กๆ อาจถูกบังคับให้เลิกเรียนเพื่อออกมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว"
ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาภูมิภาคนี้จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รายได้แท้จริงของประชาชนส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น หนำซ้ำในหลายๆ ประเทศยังเกิดความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมอย่างรุนแรงด้วย
"การที่อัตราการเติบโตสูงๆ เกิดการชะลอตัวทำให้ค่าจ้างที่แท้จริงเกิดภาวะชะงักงันหรือลดลง ซึ่งอาจจะนำไปสู่เหตุการณ์ขัดแย้งอันเกี่ยวเนื่องกับค่าจ้างมากขึ้น" รายงานระบุ
ซาจิโกะ ยามาโมโต ผู้อำนวยประจำภูมิภาคของไอแอลโอ ยังบอกกับบรรดาผู้กำหนดนโยบายจาก 11 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมกันที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะพัฒนาไปสู่ "ภาวะการว่างงานและวิกฤตการณ์ทางสังคม" อย่างรวดเร็ว เธอเน้นอีกว่าแนวโน้มความตกต่ำในครั้งนี้จะมีขนาดและความเร็วที่สูงมาก อีกทั้ง "ผลกระทบจากกรณีนี้จะรุนแรงทั้งในประเทศอุตสาหกรรมและประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย"
นอกจากนั้น ภูมิภาคเอเชียยังหมิ่นเหม่ที่จะเกิดความไม่สงบตามท้องถนน เนื่องจากคนตกงานและคนชายขอบของสังคม ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
"เมื่อแนวโน้มที่จะเกิดความวุ่นวายมีสูง ดังนั้นควรเปิดทางให้ผู้มีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนของสังคมได้เข้ามาถกเถียงกันในเรื่องนโยบายเพื่อให้มั่นใจได้ว่า รัฐบาลให้ความใส่ใจกับกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์และได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด" ยามาโมโตกล่าวแนะ
เธอพูดเพิ่มเติมว่าแรงงานที่อพยพเข้ามาทำงานตามโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นช่วงสั้นๆ จะได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ "ทั้งในอินเดีย จีน ไปจนถึงเวียดนาม เพราะเมื่อแรงงานจำนวนมหาศาลที่อพยพเข้าเมืองต้องตกงาน ก็จะเกิดการอพยพกลับไปหางานในชนบท"
ทั้งนี้ แม้แต่จีนซึ่งเคยมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจในราว 10 เปอร์เซ็นต์ตลอดช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ก็จะต้องเผชิญกับภาวะการว่างงานอย่างรุนแรงเช่นกัน ส่วนคนหนุ่มสาวก็จะมีโอกาสหางานได้น้อยลง ในขณะที่เด็กๆ ในครอบครัวยากจนก็อาจถูกบังคับให้เลิกเรียนไปด้วย
ไอแอลโอรายงานว่าเอเชียจะต้องใช้เงินราว 3.9 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีความจำเป็นที่จะต้องคุ้มครองการจ้างงานและสนับสนุนในภาคครัวเรือนใช้จ่ายเงินให้มากขึ้น
ด้านรัฐบาลเองก็ต้องเพิ่มการใช้จ่ายในเรื่องการศึกษา การรักษาพยาบาลให้มากขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และยังต้องมองหาหนทางในการส่งเสริมให้แรงงานมีทักษะการทำงานใหม่ๆ เพื่อรองรับผลิตภาพในระยะยาวด้วย
