เอเยนซีส์ - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ พบหารือกับนายกรัฐมนตรี ทาโร อาโซะ แห่งญี่ปุ่น เมื่อวันอังคาร (24) โดยที่ โอบามา และ อาโซะ ที่กลายเป็นผู้นำต่างชาติคนแรก ซึ่งมาเจรจากับผู้นำผิวสีคนแรกของอเมริกาผู้นี้ที่ทำเนียบขาว ต่างเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันเพื่อสกัดกั้นวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลก รวมทั้งยังได้พูดคุยกันถึงเรื่องความจำเป็นที่จะต้องรักษาความเชื่อมั่นในเงินสกุลดอลลาร์ต่อไป ตลอดจนปัญหาเกาหลีเหนือ
“สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ การรักษาเงินสกุลดอลลาร์ให้เป็นเงินสกุลหลัก เพราะหากความเชื่อมั่นต่อดอลลาร์หมดไป จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาล” อาโซะ บอก
ทั้งนี้ ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์สูงขึ้นมาก เนื่องจากพวกนักลงทุนได้หนีไปตลาดหุ้นและตลาดเงินในประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ โดยในวันอังคาร(24) ค่าเงินดอลลาร์ได้สูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน
ส่วนญี่ปุ่นเองก็ยังคงวิตกกับการที่เงินเยนแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในตลาดเงินโลกเช่นกัน เพราะขณะนี้ยอดส่งออกกำลังทรุดดิ่งลง จนเศรษฐกิจของไตรมาสสุดท้ายในปี 2008 หดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1970 ยิ่งถ้าหากเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอีกเมื่อเทียบกับเงินเยนก็จะยิ่งทำให้ความต้องการสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี คำแถลงของทำเนียบขาวเกี่ยวกับการหารือระหว่าง โอบามา กับ อาโซะ ไม่ได้ระบุถึงเรื่องค่าเงินดอลลาร์ แต่บอกว่า ผู้นำทั้งสองจะร่วมมือกันแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก และหาทางกระตุ้นให้ตลาดสินเชื่อเดินหน้าได้อีกครั้ง
และนอกจากผู้นำทั้งสองจะคุยกันถึงเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นประเด็นหลักแล้ว ยังได้มีการหารือกันเกี่ยวกับปัญหาในเกาหลีเหนือ อัฟกานิสถาน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกด้วย
กระนั้น จุดประสงค์หลักของการพบปะกันครั้งนี้ ก็คือ การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเพื่อผ่อนคลายความกังวลใจของญี่ปุ่นที่มีข้อสงสัยว่า สหรัฐฯ อาจละเลยความสำคัญของญี่ปุ่นไป
การที่ โอบามา ให้เกียรติแก่ อาโซะ ในฐาะผู้นำต่างประเทศคนแรกที่ได้รับเชิญมาพบปะที่ทำเนียบขาว ถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้แก่อาโซะในขณะที่เขามีคะแนนนิยมไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งปัญหาที่โถมใส่รัฐบาลในช่วงหลังก็ทำให้พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ต้องการเปลี่ยนตัวเขาออกจากการเป็นผู้นำพรรคด้วย ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ระบุว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวญี่ปุ่นราวสี่ในห้าคนต้องการให้เขาลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว
พวกนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การพบปะกันของผู้นำทั้งสองในครั้งนี้ไม่ได้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลทั้งสองมากนัก แต่จุดเน้นคือความเป็นพันธมิตรของสองประเทศมากกว่า
“แน่นอนว่า มิตรภาพระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อประเทศทั้งสอง” โอบามา กล่าวในระหว่างช่วงเวลาให้ถ่ายรูปเขากับอาโซะ และเสริมว่า “พันธมิตรฯทั้งสองประเทศถือเป็นหุ้นส่วนทางด้านความมั่นคงในเอเชียตะวันออก ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลของผมจะต้องเสริมสร้างให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ส่วน อาโซะ ก็กล่าวว่า เขารู้สึก “เป็นเกียรติอย่างสูง” ที่ได้รับเชิญมาเยือนสหรัฐฯ ในครั้งนี้ และบอกอีกว่า ทั้งสองประเทศจะ “ร่วมไม้ร่วมมือกัน” เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจให้สำเร็จ
พวกสื่อของญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ โอบามา ให้เกียรติเป็นพิเศษแก่ อาโซะ ในครั้งนี้ ก็เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังต้องการระดมเงินเพื่อใช้ในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงต้องกู้เงินด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาลล็อตใหม่ โดยที่ปัจจุบันญี่ปุ่นก็เป็นผู้ถือพันธบัตรสหรัฐฯ มากเป็นอันดับสอง รองจากจีน
ทว่าทางการญี่ปุ่นระบุว่าการพบปะกันครั้งนี้ไม่มีวาระเกี่ยวกับตลาดพันธบัตรแต่อย่างใด