เอเอฟพี - หน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ กล่าวโทษฟ้องร้องมหาเศรษฐีชื่อดังชาวเทกซัส อัลเลน สแตนฟอร์ด ว่าฉ้อโกงประชาชนไปเป็นเงินถึง 9,200 ล้านดอลลาร์ จากการขายตราสารที่โฆษณาว่าจะได้ผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริง
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นสหรัฐฯ ยังได้สั่งอายัดสินทรัพย์ทั้งหมดของสแตนฟอร์ด มหาเศรษฐีชื่อดังที่เป็นโปรโมเตอร์การแข่งขันกีฬาคริกเก็ต หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี) ยื่นฟ้องว่าสแตนฟอร์ดมีส่วนพัวพันกับ"การฉ้อโกงมูลค่ามหาศาลซึ่งกระจายออกไปเกือบทั่วโลก" เนื่องจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ของสแตนฟอร์ดนั้น มีสำนักงานอยู่ทั่วทั้งอเมริกาเหนือ, ลาตินอเมริกา, ยุโรปและทะเลแคริบเบียน
เอสอีซีฟ้องร้องทางแพ่งต่อสแตนฟอร์ด และพนักงานระดับสูงของเขาอีก 2 คน ณ ศาลชั้นต้นสหรัฐฯในเมืองดัลลัส มลรัฐเทกซัส แต่ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าสแตนฟอร์ดอยู่ที่ไหน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเขาอาศัยอยู่ที่เกาะเวอร์จิน ไอส์แลนด์ของสหรัฐฯ
หน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ของสหรัฐฯรายนี้กล่าวว่า ได้ออกหมายเรียกตัวสแตนฟอร์ดมาชี้แจง แต่เขาก็ไม่ได้มาปรากฎตัวหรือกระทั่งส่งเอกสารเข้ามาก็ยังไม่มี
คดีนี้นับเป็นคดีการฉ้อฉลใหญ่ที่สุดอีกคดีหนึ่งของเอสอีซี หลังจากเมื่อเดือนธันวาคม ก็เพิ่งฟ้องร้องกล่าวโทษเบอร์นาร์ด แมดดอฟฟ์ นักการเงินคนสำคัญของวอลสตรีทในข้อหาฉ้อโกงแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นมูลค่าถึง 50,000 ล้านดอลลาร์
สำหรับกรณีของสแตนฟอร์ด เอสอีซีได้กล่าวหาบริษัทด้านธนาคารของเขาที่ใช้ชื่อว่า สแตนฟอร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล แบงก์ (เอสไอบี) ว่า "จงใจกล่าวอ้างให้เข้าใจผิด" ว่าธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง "ทั้งทางตรงและทางอ้อม" กับกองทุนของแมดดอฟฟ์
ส่วนตัวสแตนฟอร์ดเองนั้นก็เผชิญหน้ากับข้อหาของเอสอีซีที่ว่า "ให้คำสัญญาที่ไม่เป็นจริงเรื่องการให้อัตราดอกเบี้ยสูง"
นอกจากนี้สแตนฟอร์ดแล้ว เอสอีซียังตั้งข้อหาต่อบริษัทของเขาอีก 3 แห่งว่า "ร่วมกันวางแผนฉ้อโกง ผ่านการลงทุนระดับหลายพันล้านดอลลาร์ในใบสำคัญการฝากเงิน (certificate of deposit)"
ทั้งนี้นอกจากเอสบีไอ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศแอนติกาและบาร์บูดาแล้ว สแตนฟอร์ดก็ยังเป็นเจ้าของบริษัทโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ชื่อ ฮุสตัน ,บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินชื่อ สแตนฟอร์ด กรุ๊ป คอมปานี (เอสจีซี) และกิจการที่ปรึกษาการลงทุน สแตนฟอร์ด แคปิตอล แมเนจเมนต์
เอสอีซียังได้โยงใยสแตนฟอร์ดว่าพัวพันกับแผนการทุจริตอีกเรื่องหนึ่ง โดยเกี่ยวข้องกับเงินจำนวน 1,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจากการที่พวกที่ปรึกษาของเอสจีซี ขายโครงการลงทุนแบบกองทุนรวม ที่ใช้ชื่อว่า "สแตนฟอร์ด อัลโลเคชั่น สแตรทเตจี" โดยที่มีการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดแก่นักลงทุน
เจมส์ เดวิด และลอร่า เพนเดอร์เจสท์โฮลท์ ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของสแตนฟอร์ด ไฟแนนเชี่ยล กรุ๊ป ก็ถูกกล่าวหาร่วมกับสแตนฟอร์ดด้วย
หลังจากที่เอสอีซียื่นฟ้อง รีด โอคอนเนอร์ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นก็ได้ออกคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของสแตนฟอร์ดเอาไว้ก่อน และแต่งตั้งคนขึ้นมาดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นไว้
"สแตนฟอร์ดและคนในครอบครัวรวมทั้งเพื่อนฝูงที่สนิท ๆกันได้ร่วมกันฉ้อโกงมูลค่ามหาศาล โดยการให้คำมั่นเรื่องผลตอบแทนที่ไม่เป็นจริง รวมทั้งสร้างประวัติย้อนหลังของผลตอบแทนขึ้นมาเพื่อล่านักลงทุน" ลินดา ทอมเสน ผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้กฏหมายของเอสอีซีกล่าว
โรส โรเมโร ผู้อำนวยการภาคของเอสอีซีชี้ว่าจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อฉลครั้งนี้มหาศาลและกระจายไปในหลายประเทศทั่วโลกด้วย
หลังจากข่าวการถูกฟ้องร้องกล่าวโทษของสแตนฟอร์ดแพร่ออกไป คณะกรรมการคริกเก็ตของอังกฤษและเวลส์ ได้ออกมาแถลงว่า ทางคณะกรรมการรวมทั้งผู้นำในเวสต์อินดิสคริกเก็ตได้ยุติการเจรจากับสแตนฟอร์ดเรื่องสัญญาสปอนเซอร์ไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่แล้วสแตนฟอร์ดเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของการแข่งขันภายในของประเทศเวสท์อินดีส 20 ชาติ รวมถึงการแข่งขันซูเปอร์ ซีรีส์ด้วย ซึ่งมีเงินรางวัลถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หากว่าสแตนฟอร์ดต้องคดีและต้องถอนการเป็นสปอนเซอร์แล้ว คณะกรรมการคริกเก็ตเวสท์อินดีสซึ่งกำลังขาดเม็ดเงินจะได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด
