เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลง 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันอังคาร (10) หลังสหรัฐฯลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันลงอีก และมีความกังวลต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลโอบามาจะไม่สามารถยับยั้งภาวะถดถอย ที่ฉุดตลาดหุ้นดิ่งลงเกือบ 5 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
วุฒิสภาสหรัฐฯลงมติผ่านแผนกู้เศรษฐกิจ 8.38 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อวันอังคาร (10) เดินหน้าเข้าสู่ขั้นตอนอันสาหัสรวมร่างกฎหมายของสภาสูงและสภาล่างให้เป็นฉบับเดียว ก่อนลงมติขั้นสุดท้ายกันอีกครั้งสำหรับแผนลดภาษีและใช้จ่ายเงินที่มีเป้าหมายหลบหลีกภาวะถดถอยรุนแรง
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ปิดที่ 44.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.41 ดอลลาร์
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันโลกปี 2009 ลงอีก 400,000 บาร์เรลต่อวัน จากการคาดคะเนก่อนหน้านี้ และประมาณการว่า อุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะลดลงจากปี 2008 ราว 1.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน
“ผมไม่แปลกใจเลยที่อีไอเอ และนักวิเคราะห์อื่นๆ มองตลาดน้ำมันมีตัวเลขอุปสงค์ลดลงอย่างต่อเนื่อง และนั่นคือ ต้นตอที่เพิ่มแรงกดดันทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลง” แอดดิสัน อาร์มสตรอง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการตลาดของเทรดิชันเอเนอร์จี ระบุ
ในวันอังคาร(10) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังได้เปิดเผยแผนกอบกู้วิกฤตภาคการเงินฉบับแก้ไขซึ่งอาจมีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยแผน “แบดแบงก์” เข้าซื้อทรัพย์สินของธนาคารที่มีปัญหาและฟื้นฟูการกู้ยืมของลูกค้า
แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับดิ่งลงอย่างหนักจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน เนื่องจากนักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกอบกู้วิกฤติสถาบันการเงินได้จริงหรือไม่
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 7,888.88 จุด ดิ่งลง 381.99 จุด(4.62 เปอร์เซ็นต์) แนสแดก ปิดที่ 1,524.73 จุด ลดลง 66.83 จุด (4.20 เปอร์เซ็นต์) และ เอสแอนด์พี ปิดที่ 827.16 จุด ลดลง 42.73 จุด