เอเอฟพี - โตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกออกมาแถลงเตือนวันศุกร์(6)ว่า คาดหมายจะขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 4,900 ล้านดอลลาร์ในปีการเงินนี้ สืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจถดถอยที่กดดันให้ยอดขายรถยนต์ดิ่งลงรุนแรง นับเป็นการขาดทุนจากการดำเนินงานครั้งแรกในประวัติศาสตร์บริษัท อีกทั้งยังมากเป็นสามเท่าตัวของตัวเลขที่เคยคาดการณ์ไว้เพียงเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายืนยันว่าเวลานี้ไม่มีแผนจะปิดโรงงานหรือปลดพนักงานเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่งตรงข้ามกับบริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่น ๆของญี่ปุ่นที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน
การขาดทุนของโตโยต้าที่ได้รับการมองว่าเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงระดับความร้ายแรงของปัญหาในอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง
การที่เวลานี้โตโยต้าคาดหมายว่า ในปีการเงินนี้(เม.ย.08-มี.ค.09) บริษัทจะขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 450,000 ล้านเยน (4,900 ล้านดอลลาร์) เท่ากับสามเท่าตัวของมูลค่าการขาดทุนที่โตโยต้าได้เคยคาดหมายไว้ในเดือนธันวาคม
นอกจากนี้โตโยต้ายังพยากรณ์ว่า ยอดขาดทุนสุทธิของปีการเงินนี้จะเท่ากับ 350,000 ล้านเยน เทียบกับก่อนหน้าที่คาดไว้ว่าจะยังคงได้กำไรสุทธิ 50,000 ล้านเยน
สำหรับไตรมาสสามของปีการเงินนี้ (ก.ค.08-ธ.ค.08) บริษัทรายงานว่าขาดทุนจากการดำเนินงาน 360,000 ล้านเยน (4,000 ล้านดอลลาร์) เทียบกับการได้กำไรถึง 601,500 ล้านเยนของช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน
"มันเป็นช่วงที่ยากลำบากมาก" รองประธานกรรมการบริหารอาวุโสของโตโยต้า มิตซูโอะ คิโนชิตะกล่าว "นับตั้งแต่เลห์แมน (บราเธอร์ส)ล้มลง วิกฤตการเงินก็ลุกลามเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงอย่างรวดเร็ว
"เราไม่สามารถจะบอกได้ว่าในปีการเงินหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่หวังว่าเรากำลังลงไปถึงก้นบึ้งแห่งปัญหาและพร้อมจะฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ในไม่ช้า"
โตโยต้ามียอดขาดทุนสุทธิถึง 164,700 ล้านเยนในช่วงไตรมาสสามของปีการเงินนี้ เทียบกับกำไรสุทธิ 458,600 ล้านเยนของช่วงหนึ่งปีก่อนหน้า สำหรับรายได้นั้นลดลงถึง 28.4% หรือ 4.8 ล้านล้านเยน
ในไตรมาสสามนี้ โตโยต้าขายรถยนต์ได้ 1.84 ล้านคันทั่วโลกลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 443,000 คัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีทีแล้วโตโยต้าก็กลายเป็นบริษัทที่ขายรถยนต์ได้มากที่สุดในโลก แซงหน้าเจนเนอรัล มอเตอร์ส(จีเอ็ม) ที่ครองอยู่ในตำแหน่งมานาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่ายอดขายของเจนเนอรัลมอเตอร์สนั้นร่วงลงมากกว่าของโตโยต้า
เพื่อรับมือกับสภาพที่ย่ำแย่เหล่านี้ โตโยต้าจึงได้ประกาศลดกำลังการผลิต ปลดพนักงานและแต่งตั้งประธานกรรมการบริหารบริษัทคนใหม่ ที่เป็นคนจากตระกูลผู้ก่อตั้งบริษัทที่เชื่อกันว่ามีความสามารถจะนำพาให้บริษัทพ้นจากวิกฤตการณ์นี้ไปได้
โตโยต้าคาดว่าจะลดต้นทุนรายจ่ายประจำต่างๆลง 10% แต่คิโนะชิตะบอกว่าจะไม่มีแผนปิดโรงงานและปลดพนักงานเพิ่มเติมอีก "การจ้างงานเป็นเรื่องที่สำคัญ เราไม่มีแผนที่จะลดคนอีกต่อไป" เขากล่าว
ในเดือนพฤศจิการยน โตโยต้าออกมาระบุว่าอาจจะลดจำนวนพนักงานชั่วคราวลงไปราว 3,000 คนในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม
อุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นนั้นหดตัวลงเรื่อย ๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะว่าคนหนุ่มสาวในประเทศที่ไม่ใช้รถยนต์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมือง อันเนื่องมาจากรายได้ที่น้อยลง ค่าน้ำมันที่แพงขึ้น และบริการขนส่งมวลชนที่สะดวกสบาย
เศรษฐกิจโลกตกต่ำก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นได้รับความลำบากยิ่งขึ้น เพราะบริษัทเหล่านี้พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก แม้ว่าสถานการณ์ของพวกเขายังจะดีกว่าบิ๊กทรีของสหรัฐฯ ซึ่งก็คือ ฟอร์ด ไครสเลอร์ และเจนเนอรัล มอเตอร์ส
อนึ่ง ในตอนเช้าวานนี้ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้ระยะยาวของโตโยต้า 1 ขั้น นั่นคือ ลงจาก Aaa อันเป็นระดับความน่าถือสูงสุด มาอยู่ที่ Aa1 นอกจากนั้น เรตติ้งของทิศทางอนาคตก็ถูกจัดให้เป็น "ลบ" ซึ่งหมายถึงว่าอาจจะมีการลดความน่าเชื่อถือลงมาอีก