โจลี-พิตต์เยือนค่ายผู้อพยพในไทย วอนขอความเมตตาช่วยโรฮิงยาด้วย

เอเอฟพี – ยูเอ็นเผย คู่รักซูเปอร์สตาร์ แองเจลินา โจลี และแบรด พิตต์ เดินทางเยือนค่ายผู้อพยพชาวพม่า ในประเทศไทย พร้อมวอนทางการไทยเมตตาให้ความช่วยเหลือชาวโรฮิงยาเช่นกัน

โจลี ทูตสันถวไมตรีหน่วยงานผู้อพยพของยูเอ็น เดินทางเยือนไทยพร้อมกับแบรด พิตต์ ผู้เป็นสามี ในวันพุธ (4) ที่ผ่านมา โดยได้พบปะกับผู้อพยพในค่ายบ้านใหม่ในสอย ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

“ฉันรู้สึกเศร้าสลด เมื่อพบหญิงวัย 21 ปี ที่เกิดในค่ายผู้อพยพ แต่ไม่เคยได้ออกจากค่ายเลย และตอนนี้เธอก็กำลังเลี้ยงลูกของเธอเองในค่ายเดียวกัน” สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNCHR) รายงานสิ่งที่โจลีกล่าว

ค่ายดังกล่าว อยู่ห่างจากชายแดนพม่าเพียง 3 กิโลเมตร เป็นที่พักพิงของผู้อพยพมากกว่า 18,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยง ไม่มีเสรีภาพในการเคลื่อนไหว และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากค่ายไปหางาน หรือมีการศึกษาสูงๆ

คิตตี้ แมคคินซีย์ โฆษกของยูเอ้นเอสซีอาร์ เผยว่า ก่อนหน้านี้ โจลีเคยเยือนค่ายผู้อพยพดังกล่าวในปี 2004 และต้องการกลับไปครั้งนี้เพื่ออวดสามีของเธอ

ค่ายบ้านใหม่ในสอยเป็นค่ายผู้อพยพที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 จากทั้งหมด 9 แห่ง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้อพยพโดยรวมถึง 111,000 คน และส่วนใหญ่มาจากชนกลุ่มน้อยต่างๆ ของพม่า ที่รวมถึงชาวกะเหรี่ยงด้วย

ทั้งนี้ โจลีได้เรียกร้องให้ทางการไทยเร่งดำเนินการกับผู้อพยพ 5,000 คน ที่เข้ามาในแม่ฮ่องสอนในปี 2006 และ 2007 หลังจากการต่อสู้ข้ามชายแดน ในรัฐคะยาห์ ของพม่า

การเดินทางครั้งนี้ของเธอมีขึ้นในขณะที่ไทยกลายเป็นจุดสนใจ จากกรณีการปฏิบัติต่อผู้อพยพชาวโรฮิงยา ที่หนีมาจากทางเหนือของพม่า ลอยเรือเข้าทางชายฝั่งทางใต้ของไทย โดยมีการกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่กองทัพเรือทารุณกรรมผู้อพยพเหล่านี้ พร้อมกับส่งลงเรือลอยทะเลกลับประเทศไป โดยไม่มีน้ำ และอาหารเพียงพอ

โจลีระบุว่า การปฏิบัติต่อผู้อพยพในค่ายที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างไม่มีตำหนิ ทำให้เธอหวังว่า ประเทศไทยจะเมตตาต่อผู้อพยพชาวโรฮิงยา ซึ่งเดินทางมาถึงชายฝั่งของประเทศไทยแล้วด้วย