เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 9 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันอังคาร (27) หลังข้อมูลอันอ้างว้างทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกได้กระพือความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน
ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ดิ่งลงทำสถิติต่ำสุดตลอดกาลในเดือนมกราคม จากผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (27) ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกเสนอมาตรการเพิ่มเติมช่วยเหลือธนาคารและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ถูกเขย่าจากวิกฤตภาคการเงิน
นอกจากนี้ ราคาบ้านในสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายน ปี 2008 ลดฮวบจากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 18.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดบ้านยังคงเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ข้อมูลของสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ เผยแพร่เมื่อวันอังคาร(27)
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ปิดที่ 41.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 4.15 ดอลลาร์ หรือ 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการทรุดลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอน ลดลง 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.73 ดอลลาร์
สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ คาดหมายเมื่อวันอังคาร(27) ว่ายอดค้าปลีกในประเทศจะมืดมนที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าจากข้อมูลพบว่ายอดค้าปลีกในเดือนมกราคม ห่อเหี่ยวน้อยกว่าที่คาดหมายไว้
“เศรษฐกิจยังคงเป็นตัวถ่วงอุปสงค์” ทอม เบนท์ นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพีพาริบาสคอมมูดิตีฟิวเจอร์ กล่าว
ทั้งนี้ คาดหมายว่าข้อมูลคลังน้ำมันสำรองของสหรัฐฯ ซึ่งจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งเนื่องจากการบริโภคอ่อนแอลง โดยจากการสำรวจของรอยเตอร์คาดคะเนว่าสต๊อกน้ำมันของสหรัฐฯอาจเพิ่มขึ้นถึง 2.9 ล้านบาร์เรลเลยทีเดียว
ด้านบรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีบวกเพิ่มในช่วงแรก หลังคาดการณ์ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกัน เอกซ์เพรส และยูไนเต็ด สเตท สตีล คอร์ป อาจมีผลประกอบการกำไรทั้งที่กำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ แต่จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับลดลง หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯในเดือนมกราคม ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 37.7 ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1967
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 8,174.73 จุด เพิ่มขึ้น 58.70 จุด แนสแดคปิดที่ระดับ 1,504.90 จุด เพิ่มขึ้น 15.44 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ระดับ 845.71 จุด เพิ่มขึ้น 9.14 จุด.