(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)
Pakistan muzzles its guns
By Syed Saleem Shahzad
20/10/2008
ปากีสถานที่อยู่ในสภาพถังแตก กำลังต้องทำข้อตกลงหยุดยิงกับพวกหัวรุนแรงในพื้นที่ชนเผ่าเขตนอร์ท วาซิริสถาน แทนที่จะเปิดการโจมตีอย่างขนานใหญ่ ทำนองเดียวกับยุทธการที่ยังคงดำเนินอยู่ในเขตบาจาอูร์ เอเยนซี ถึงแม้พวกผู้บัญชาการทหารระดับสูงของตอลิบานคุยอวดว่า การสู้รบในเขตพื้นที่ชนเผ่าแห่งหลังนี้เอง ฝ่ายทางการก็กำลังตกอยู่ในฐานะย่ำแย่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร สหรัฐอเมริกาผู้ไร้ความอดทนยังคงกำลังกดดันกรุงอิสลามาบัดให้ต้องเพิ่มปฏิบัติการให้แข็งขันขึ้นอีก
การาจี –หลังจากล้มเหลวในการปฏิบัติการปราบปรามพวกสุดโต่งหัวรุนแรงในพื้นที่ชนเผ่าเขตบาจาอูร์ เอเยนซี และหุบเขา สวาต แวลลีย์ แล้ว ปากีสถานที่อยู่ในสภาพถังแตก ก็ต้องประกาศยุติการบุกโจมตีในนอร์ท วาซิริสถาน อันเป็นพื้นที่ชนเผ่าอีกเขตหนึ่งเช่นกัน และยอมเจรจาทำข้อตกลงหยุดยิงกับพวกหัวรุนแรง
กระนั้นก็ตาม แรงกดดันอย่างไม่ลดละจากสหรัฐฯก็จะไม่ปล่อยให้กรุงอิสลามาบัดสามารถที่จะอยู่เฉยๆ ไปได้นานนัก อันที่จริงแล้ว นี่น่าจะเป็นข้อความที่กรุงวอชิงตันส่งมาพร้อมกับผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ริชาร์ด บาวเชอร์ ผู้เดินทางมาเยือนปากีสถานโดยมิได้มีกำหนดการมาก่อนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สหรัฐฯตระหนักเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า บรรดาที่มั่นของพวกหัวรุนแรงตามเขตต่างๆ ในพื้นที่ชนเผ่าของปากีสถานนั้น สามารถโหมเติมเชื้อเพลิงได้มากมายแค่ไหน ให้แก่การก่อความไม่สงบที่นำโดยพวกตอลิบาน ในดินแดนอัฟกานิสถานที่อยู่ข้ามไปอีกฟากหนึ่งของชายแดน
อย่างไรก็ตาม ปากีสถานกำลังอยู่ในอาการอับจนทางการเงินอย่างร้ายแรงจริงๆ และอย่างดีที่สุดที่สามารถจะทำได้ ก็คือการซื้อเวลาจากพวกหัวรุนแรง และรอคอยไปจนกว่าวิกฤตทางเศรษฐกิจจะผ่อนคลายลง
เวลานี้ทั้งจีนและสหรัฐฯต่างดูเหมือนลังเลที่จะเข้าไปช่วยเหลือกอบกู้ปากีสถานไม่ให้ล้มละลาย ถึงแม้มีอันตรายจริงๆ ว่าปากีสถานจะถึงขั้นต้องหยุดพักการชำระหนี้สินมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทางด้านซาอุดีอาระเบียก็เช่นกัน ไม่ได้เสนอที่จะยอมยืดเวลาชำระหนี้ค่าน้ำมันให้แก่ปากีสถาน หรือจะเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความลำบากในเรื่องเงินสดใดๆ เลย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลปากีสถานต้องแถลงว่า คงจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งเป็นวิธีที่ใครๆ ก็ต้องการหลีกเลี่ยง
**ทหารพักรบ**
สัปดาห์ที่แล้ว ปากีสถานได้ระดมกำลังทหารเพื่อปฏิบัติการรุกโจมตีเข้าไปในเขตนอร์ท วาซิริสถาน บีบบังคับให้ชาวบ้านหลายร้อยคนต้องหลบหนีเข้าไปอยู่ในเมืองบานนู เนื่องจากพวกเขาหวาดกลัวว่าจะเผชิญการโจมตีเข่นฆ่าอย่างขนานใหญ่ทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ แบบเดียวกับที่เคยบังคับให้ประชาชนนับพันนับหมื่นคน ต้องหลบหนีออกจากเขตบาจาอูร์ เอเยนซีก่อนหน้านี้
แต่แล้วจู่ๆ ปากีสถานก็ติดต่อทาบทามพวกหัวรุนแรงและเสนอให้หยุดยิงกัน ผู้นำของพวกหัวรุนแรง 2 คน คือ ฮาฟิซ กุล บาฮาดูร์ จากนอร์ท วาซิริสถาน และ มาลวี นาซีร์ แห่งเซาท์ วาซิริสถาน ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ได้ยินยอมรับข้อเสนอหยุดยิงนี้ ทั้งนี้อาจจะเนื่องจากผู้นำทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นศัตรูกับ ไบตุลลาห์ เมห์ซุด หัวหน้าของพวกตอลิบานปากีสถาน
บาฮาดูร์ยังได้ออกคำแถลงกล่าวว่า การสู้รบกับกองกำลังของทางการปากีสถาน กำลังสร้างความเสียหายให้แก่การต่อสู้เพื่อสนับสนุนการต่อต้านการรุกรานของประชาชาติอัฟกัน ดังนั้น จึงมีการตัดสินใจกันว่าถ้าหากกองกำลังรักษาความมั่นคงของปากีสถานไม่รุกคืบหน้ามาอีก ฝ่ายชนเผ่าก็จะยอมรับกระทำตามข้อตกลงหยุดยิง
อันที่จริงแล้ว สำหรับพวกหัวรุนแรงไม่ว่าจะอยู่ในเขตใด ต่างมองเห็นกันว่าการทำข้อตกลงหยุดยิงกับกองกำลังของทางการปากีสถานเช่นนี้ คือความได้เปรียบของพวกตน เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้จะสามารถรวมศูนย์ที่มั่นต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในปากีสถาน เพื่อเป็นการเตรียมตัวไปเพิ่มการปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน โดยที่เวลานี้พวกเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยมีมาก่อนอยู่แล้ว ในการทำสงครามต่อต้านกองทหารต่างชาติในสมรภูมิแห่งนั้นที่ดำเนินมาแล้วถึง 7 ปี
พวกตอลิบานยังคงมีความสามารถในการยืดหยุ่นเหมือนดังที่เคยเป็นมา สำหรับการคงอยู่ในพื้นที่ชนเผ่าของปากีสถาน ซึ่งพวกเขาเห็นว่าเวลานี้พวกเขามีฐานะที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
กอรี เซียอูร์ เราะห์มาน ผู้ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้ก้าวผงาดขึ้นเป็นผู้บัญชาการสูงสุดระดับภูมิภาค ของกลุ่มสนับสนุนตอลิบานในหมดในจังหวัดคูนาร์ และจังหวัดนูริสถาน ของอัฟกานิสถาน ตลอดจนพื้นที่เขต บาจาอูร์ เอเยนซี และ โมฮัมหมัด เอเยนซี ของปากีสถาน ได้แสดงให้เห็นท่าทีเช่นนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แก่เอเชียไทมส์ออนไลน์
“นักรบมุญาฮีดีนสามารถยึดการควบคุมทางภาคพื้นดิน [ในเขตบาจาอูร์] เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ กำหนดการของอเมริกันที่จะทำลายนักรบมุญาฮีดีน รวมทั้งทางเลือกต่างๆ ของรัฐบาล [ปากีสถาน] ล้วนแล้วแต่ล้มเหลวไม่สามารถทำให้พวกเราพ่ายแพ้ได้”
เราะห์มานพูดให้สัมภาษณ์คราวนี้โดยอยู่ในดินแดนส่วนที่เป็นเขตบาจาอูร์ เป็นการเยาะเย้ยคำกล่าวอ้างของฝ่ายรัฐบาลที่ว่า เขาถูกบีบบังคับให้ต้องหนีไปอัฟกานิสถานแล้วหลังจากได้รับบาดเจ็บ
เราะห์มานเป็นคนสัญชาติอัฟกัน ทางเอเชียไทมส์ออนไลน์ได้เคยแนะนำเขาต่อท่านผู้อ่านเป็นครั้งแรกในฐานะผู้ที่จะเป็นผู้บัญชาการระดับภูมิภาคคนสำคัญที่สุดในอนาคต (ดู A fighter and a financier, May 23, 2008) เขากำลังเป็นผู้นำของกองกำลังทั้งหมดของตอลิบานไม่ว่าจะเป็นคนท้องถิ่น, คนต่างชาติ, หรือชาวอัฟกัน ในการต่อสู้กับทหารปากีสถานในบาจาอูร์
“ผมยังคงมีสุขภาพที่ดีเยี่ยมและอยู่ในเขตบาจาอูร์ ผมไม่เคยถอยหนีเข้าไปในอัฟกานิสถานหรือได้รับบาดเจ็บอะไรทั้งนั้น นั่นเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของกองทัพปากีสถานเพื่อพยายามทำลายขวัญของนักรบมุญาฮีดีน” เราะห์มานบอก
“ตอนเริ่มต้นเลย ปากีสถานประสบความสำเร็จในการยุยงพวกชนเผ่าท้องถิ่นให้ต่อต้านเรา และมีเหตุการณ์จุดไฟเผาทรัพย์สินของตอลิบานเกิดขึ้นมาสองสามเหตุการณ์ แต่เวลานี้ชนเผ่าทั้งหมดต่างถอนตัวออกจากกองกำลังอาสาท้องถิ่นที่นำโดยรัฐบาลแล้ว และยกเว้นพื้นที่ไม่กี่แห่งอย่างเช่น คาร์ ทางกองบัญชาการตอลิบานสามารถควบคุมภาคพื้นดินได้หมดสิ้นสมบูรณ์แล้ว
“กองทัพปากีสถานไม่มีปัญญาทำอะไรอย่างอื่นได้ นอกจากส่งเฮลิคอปเตอร์แบบกันชิปมาสาดกระสุนใส่วันละ 3-4 เที่ยว หรือส่งเครื่องบินมาวันละเที่ยวเข้าโจมตีทิ้งระเบิดแบบสะเปะสะปะเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง การปฏิบัติการเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้มุญาฮีดีนเกิดการสูญเสียอะไรหรอก” เราะห์มานคุย
เราะห์มานยืนยันว่า เวลานี้ฝ่ายตอลิบานอยู่ในฐานะที่สามารถต้านทานกองกำลังรักษาความมั่นคงของปากีสถานได้ อีกทั้งสามารถริเริ่มเข้าโจมตีกองกำลังทหารสหรัฐฯในเขตหุบเขาคูนา ได้อย่างประสบความสำเร็จด้วย
“เราได้เริ่มการปฏิบัติการของเราในหุบเขาคูนา และยกเว้นแต่ช่วงที่มีการติดขัดอยู่สักสองสามอาทิตย์แล้ว การปฏิบัติการเหล่านี้ก็เป็นไปได้อย่างปกติเหมือนกับเมื่อก่อนหน้าการปฏิบัติการบุกบาจาอูร์ [จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน]” เราะห์มานกล่าว
เขาบอกอย่างมั่นอกมั่นใจยิ่งว่า การทำข้อตกลงหยุดยิงกันในนอร์ท วาซิริสถาน จะไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกอะไรขึ้นมาเลย “มันเป็นการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์ของกลุ่มตอลิบานที่อยู่ในนอร์ท วาซิริสถาน และถึงอย่างไรเมื่อพูดกันถึงที่สุดแล้ว เราทั้งหมดก็จะเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์ระดับกว้างขึ้นไปของพวกเรานั่นแหละ”
ปากีสถานอาจสามารถซื้อเวลาให้ตัวเองได้ระยะหนึ่งจากการหยุดยิง แต่กระทั่งแค่ศึกคราวนี้เองก็ยังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสงครามทั้งสงคราม ถึงแม้ว่าเครื่องบินไร้คนขับรุ่นเพรเดเตอร์ของสหรัฐฯ เริ่มถูกส่งออกมาปฏิบัติการโจมตีทางฟากฟ้าของนอร์ท วาซิริสถาน ก็ตามที
ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าสำนักงานปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์ สามารถที่จะติดต่อกับเขาได้ทางอีเมล์ saleem_sharzad2002@yahoo.com
Pakistan muzzles its guns
By Syed Saleem Shahzad
20/10/2008
ปากีสถานที่อยู่ในสภาพถังแตก กำลังต้องทำข้อตกลงหยุดยิงกับพวกหัวรุนแรงในพื้นที่ชนเผ่าเขตนอร์ท วาซิริสถาน แทนที่จะเปิดการโจมตีอย่างขนานใหญ่ ทำนองเดียวกับยุทธการที่ยังคงดำเนินอยู่ในเขตบาจาอูร์ เอเยนซี ถึงแม้พวกผู้บัญชาการทหารระดับสูงของตอลิบานคุยอวดว่า การสู้รบในเขตพื้นที่ชนเผ่าแห่งหลังนี้เอง ฝ่ายทางการก็กำลังตกอยู่ในฐานะย่ำแย่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร สหรัฐอเมริกาผู้ไร้ความอดทนยังคงกำลังกดดันกรุงอิสลามาบัดให้ต้องเพิ่มปฏิบัติการให้แข็งขันขึ้นอีก
การาจี –หลังจากล้มเหลวในการปฏิบัติการปราบปรามพวกสุดโต่งหัวรุนแรงในพื้นที่ชนเผ่าเขตบาจาอูร์ เอเยนซี และหุบเขา สวาต แวลลีย์ แล้ว ปากีสถานที่อยู่ในสภาพถังแตก ก็ต้องประกาศยุติการบุกโจมตีในนอร์ท วาซิริสถาน อันเป็นพื้นที่ชนเผ่าอีกเขตหนึ่งเช่นกัน และยอมเจรจาทำข้อตกลงหยุดยิงกับพวกหัวรุนแรง
กระนั้นก็ตาม แรงกดดันอย่างไม่ลดละจากสหรัฐฯก็จะไม่ปล่อยให้กรุงอิสลามาบัดสามารถที่จะอยู่เฉยๆ ไปได้นานนัก อันที่จริงแล้ว นี่น่าจะเป็นข้อความที่กรุงวอชิงตันส่งมาพร้อมกับผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ริชาร์ด บาวเชอร์ ผู้เดินทางมาเยือนปากีสถานโดยมิได้มีกำหนดการมาก่อนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สหรัฐฯตระหนักเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า บรรดาที่มั่นของพวกหัวรุนแรงตามเขตต่างๆ ในพื้นที่ชนเผ่าของปากีสถานนั้น สามารถโหมเติมเชื้อเพลิงได้มากมายแค่ไหน ให้แก่การก่อความไม่สงบที่นำโดยพวกตอลิบาน ในดินแดนอัฟกานิสถานที่อยู่ข้ามไปอีกฟากหนึ่งของชายแดน
อย่างไรก็ตาม ปากีสถานกำลังอยู่ในอาการอับจนทางการเงินอย่างร้ายแรงจริงๆ และอย่างดีที่สุดที่สามารถจะทำได้ ก็คือการซื้อเวลาจากพวกหัวรุนแรง และรอคอยไปจนกว่าวิกฤตทางเศรษฐกิจจะผ่อนคลายลง
เวลานี้ทั้งจีนและสหรัฐฯต่างดูเหมือนลังเลที่จะเข้าไปช่วยเหลือกอบกู้ปากีสถานไม่ให้ล้มละลาย ถึงแม้มีอันตรายจริงๆ ว่าปากีสถานจะถึงขั้นต้องหยุดพักการชำระหนี้สินมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทางด้านซาอุดีอาระเบียก็เช่นกัน ไม่ได้เสนอที่จะยอมยืดเวลาชำระหนี้ค่าน้ำมันให้แก่ปากีสถาน หรือจะเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความลำบากในเรื่องเงินสดใดๆ เลย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลปากีสถานต้องแถลงว่า คงจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งเป็นวิธีที่ใครๆ ก็ต้องการหลีกเลี่ยง
**ทหารพักรบ**
สัปดาห์ที่แล้ว ปากีสถานได้ระดมกำลังทหารเพื่อปฏิบัติการรุกโจมตีเข้าไปในเขตนอร์ท วาซิริสถาน บีบบังคับให้ชาวบ้านหลายร้อยคนต้องหลบหนีเข้าไปอยู่ในเมืองบานนู เนื่องจากพวกเขาหวาดกลัวว่าจะเผชิญการโจมตีเข่นฆ่าอย่างขนานใหญ่ทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ แบบเดียวกับที่เคยบังคับให้ประชาชนนับพันนับหมื่นคน ต้องหลบหนีออกจากเขตบาจาอูร์ เอเยนซีก่อนหน้านี้
แต่แล้วจู่ๆ ปากีสถานก็ติดต่อทาบทามพวกหัวรุนแรงและเสนอให้หยุดยิงกัน ผู้นำของพวกหัวรุนแรง 2 คน คือ ฮาฟิซ กุล บาฮาดูร์ จากนอร์ท วาซิริสถาน และ มาลวี นาซีร์ แห่งเซาท์ วาซิริสถาน ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ได้ยินยอมรับข้อเสนอหยุดยิงนี้ ทั้งนี้อาจจะเนื่องจากผู้นำทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นศัตรูกับ ไบตุลลาห์ เมห์ซุด หัวหน้าของพวกตอลิบานปากีสถาน
บาฮาดูร์ยังได้ออกคำแถลงกล่าวว่า การสู้รบกับกองกำลังของทางการปากีสถาน กำลังสร้างความเสียหายให้แก่การต่อสู้เพื่อสนับสนุนการต่อต้านการรุกรานของประชาชาติอัฟกัน ดังนั้น จึงมีการตัดสินใจกันว่าถ้าหากกองกำลังรักษาความมั่นคงของปากีสถานไม่รุกคืบหน้ามาอีก ฝ่ายชนเผ่าก็จะยอมรับกระทำตามข้อตกลงหยุดยิง
อันที่จริงแล้ว สำหรับพวกหัวรุนแรงไม่ว่าจะอยู่ในเขตใด ต่างมองเห็นกันว่าการทำข้อตกลงหยุดยิงกับกองกำลังของทางการปากีสถานเช่นนี้ คือความได้เปรียบของพวกตน เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้จะสามารถรวมศูนย์ที่มั่นต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในปากีสถาน เพื่อเป็นการเตรียมตัวไปเพิ่มการปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน โดยที่เวลานี้พวกเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยมีมาก่อนอยู่แล้ว ในการทำสงครามต่อต้านกองทหารต่างชาติในสมรภูมิแห่งนั้นที่ดำเนินมาแล้วถึง 7 ปี
พวกตอลิบานยังคงมีความสามารถในการยืดหยุ่นเหมือนดังที่เคยเป็นมา สำหรับการคงอยู่ในพื้นที่ชนเผ่าของปากีสถาน ซึ่งพวกเขาเห็นว่าเวลานี้พวกเขามีฐานะที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
กอรี เซียอูร์ เราะห์มาน ผู้ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้ก้าวผงาดขึ้นเป็นผู้บัญชาการสูงสุดระดับภูมิภาค ของกลุ่มสนับสนุนตอลิบานในหมดในจังหวัดคูนาร์ และจังหวัดนูริสถาน ของอัฟกานิสถาน ตลอดจนพื้นที่เขต บาจาอูร์ เอเยนซี และ โมฮัมหมัด เอเยนซี ของปากีสถาน ได้แสดงให้เห็นท่าทีเช่นนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แก่เอเชียไทมส์ออนไลน์
“นักรบมุญาฮีดีนสามารถยึดการควบคุมทางภาคพื้นดิน [ในเขตบาจาอูร์] เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ กำหนดการของอเมริกันที่จะทำลายนักรบมุญาฮีดีน รวมทั้งทางเลือกต่างๆ ของรัฐบาล [ปากีสถาน] ล้วนแล้วแต่ล้มเหลวไม่สามารถทำให้พวกเราพ่ายแพ้ได้”
เราะห์มานพูดให้สัมภาษณ์คราวนี้โดยอยู่ในดินแดนส่วนที่เป็นเขตบาจาอูร์ เป็นการเยาะเย้ยคำกล่าวอ้างของฝ่ายรัฐบาลที่ว่า เขาถูกบีบบังคับให้ต้องหนีไปอัฟกานิสถานแล้วหลังจากได้รับบาดเจ็บ
เราะห์มานเป็นคนสัญชาติอัฟกัน ทางเอเชียไทมส์ออนไลน์ได้เคยแนะนำเขาต่อท่านผู้อ่านเป็นครั้งแรกในฐานะผู้ที่จะเป็นผู้บัญชาการระดับภูมิภาคคนสำคัญที่สุดในอนาคต (ดู A fighter and a financier, May 23, 2008) เขากำลังเป็นผู้นำของกองกำลังทั้งหมดของตอลิบานไม่ว่าจะเป็นคนท้องถิ่น, คนต่างชาติ, หรือชาวอัฟกัน ในการต่อสู้กับทหารปากีสถานในบาจาอูร์
“ผมยังคงมีสุขภาพที่ดีเยี่ยมและอยู่ในเขตบาจาอูร์ ผมไม่เคยถอยหนีเข้าไปในอัฟกานิสถานหรือได้รับบาดเจ็บอะไรทั้งนั้น นั่นเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของกองทัพปากีสถานเพื่อพยายามทำลายขวัญของนักรบมุญาฮีดีน” เราะห์มานบอก
“ตอนเริ่มต้นเลย ปากีสถานประสบความสำเร็จในการยุยงพวกชนเผ่าท้องถิ่นให้ต่อต้านเรา และมีเหตุการณ์จุดไฟเผาทรัพย์สินของตอลิบานเกิดขึ้นมาสองสามเหตุการณ์ แต่เวลานี้ชนเผ่าทั้งหมดต่างถอนตัวออกจากกองกำลังอาสาท้องถิ่นที่นำโดยรัฐบาลแล้ว และยกเว้นพื้นที่ไม่กี่แห่งอย่างเช่น คาร์ ทางกองบัญชาการตอลิบานสามารถควบคุมภาคพื้นดินได้หมดสิ้นสมบูรณ์แล้ว
“กองทัพปากีสถานไม่มีปัญญาทำอะไรอย่างอื่นได้ นอกจากส่งเฮลิคอปเตอร์แบบกันชิปมาสาดกระสุนใส่วันละ 3-4 เที่ยว หรือส่งเครื่องบินมาวันละเที่ยวเข้าโจมตีทิ้งระเบิดแบบสะเปะสะปะเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง การปฏิบัติการเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้มุญาฮีดีนเกิดการสูญเสียอะไรหรอก” เราะห์มานคุย
เราะห์มานยืนยันว่า เวลานี้ฝ่ายตอลิบานอยู่ในฐานะที่สามารถต้านทานกองกำลังรักษาความมั่นคงของปากีสถานได้ อีกทั้งสามารถริเริ่มเข้าโจมตีกองกำลังทหารสหรัฐฯในเขตหุบเขาคูนา ได้อย่างประสบความสำเร็จด้วย
“เราได้เริ่มการปฏิบัติการของเราในหุบเขาคูนา และยกเว้นแต่ช่วงที่มีการติดขัดอยู่สักสองสามอาทิตย์แล้ว การปฏิบัติการเหล่านี้ก็เป็นไปได้อย่างปกติเหมือนกับเมื่อก่อนหน้าการปฏิบัติการบุกบาจาอูร์ [จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน]” เราะห์มานกล่าว
เขาบอกอย่างมั่นอกมั่นใจยิ่งว่า การทำข้อตกลงหยุดยิงกันในนอร์ท วาซิริสถาน จะไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกอะไรขึ้นมาเลย “มันเป็นการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์ของกลุ่มตอลิบานที่อยู่ในนอร์ท วาซิริสถาน และถึงอย่างไรเมื่อพูดกันถึงที่สุดแล้ว เราทั้งหมดก็จะเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์ระดับกว้างขึ้นไปของพวกเรานั่นแหละ”
ปากีสถานอาจสามารถซื้อเวลาให้ตัวเองได้ระยะหนึ่งจากการหยุดยิง แต่กระทั่งแค่ศึกคราวนี้เองก็ยังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสงครามทั้งสงคราม ถึงแม้ว่าเครื่องบินไร้คนขับรุ่นเพรเดเตอร์ของสหรัฐฯ เริ่มถูกส่งออกมาปฏิบัติการโจมตีทางฟากฟ้าของนอร์ท วาซิริสถาน ก็ตามที
ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าสำนักงานปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์ สามารถที่จะติดต่อกับเขาได้ทางอีเมล์ saleem_sharzad2002@yahoo.com