(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)
Militants ready for a war without borders
By Syed Saleem Shahzad
16/07/2008
กองทหารพันธมิตรที่นำโดยองค์การนาโต้คาดหมายเอาไว้แล้วว่ามันจะเป็นเช่นนั้น อัลกออิดะห์และพวกตอลิบานปากีสถานก็คาดหมายไว้เช่นกันว่ามันจะเป็นเช่นนั้น นั่นก็คือ อีกไม่นานสงครามในอัฟกานิสถานจะแผ่ลามเข้าไปในดินแดนของปากีสถาน วอชิงตันกำลังเชื่อมั่นในเรื่องที่ว่าทางการอิสลามาบัดจะให้ความช่วยเหลือกองทหารพันธมิตรด้วยการปฏิบัติการจากพื้นที่ชายแดนของตนเอง ทว่าบรรดานักรบมุสลิมกลับมีแนวความคิดเป็นอย่างอื่น
การาจี – ไม่ว่าจะเป็นการพูดเป็นนัยในทางให้ร้ายปากีสถานชนิดแทบไม่ปกปิดอำพรางอะไรเลย ภายหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีแบบคนร้ายฆ่าตัวตาย ต่อสถานเอกอัครราชทูตอินเดียในกรุงคาบูลเมื่อต้นเดือนนี้ ไปจนถึงการกล่าวหาอย่างโจ่งแจ้งของรัฐบาลอัฟกันว่าทางการอิสลามาบัดมีส่วนพัวพันกับการก่อความไม่สงบอย่างไม่มีหยุดยั้งของพวกตอลิบาน เหล่านี้ล้วนแต่แสดงให้เห็นว่าเกมแห่งการประณามกัน กำลังเคลื่อนเข้าสู่ช่วงระยะที่มีอันตรายยิ่ง นั่นก็คือ สงครามใหญ่ระดับภูมิภาคอาจจะปะทุขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่วัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานคณะเสนาธิการทหารผสมของสหรัฐฯ พลเรือเอก ไมก์ มุลเลน ได้ไปเยือนปากีสถานอย่างฉับพลัน โดยเขาได้ไปเปิดเผยต่อเหล่าผู้นำและนายทหารอาวุโสของปากีสถาน ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการเข้าถล่มโจมตีอย่างเฉียบขาดต่อเครือข่ายของพวกตอลิบานและอัลกออิดะห์ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในเขตพรมแดนระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน รวมทั้งเรื่องที่กองทหารพันธมิตรในอัฟกานิสถานจะไม่มีความลังเลใจเลยในการไล่ติดตามศัตรูจนรุกล้ำเข้ามาในปากีสถาน
มุลเลนเรียกร้องให้เหล่าผู้นำปากีสถาน แสดงบทบาทของพวกเขาจากพื้นที่ชายแดนของพวกเขาเอง เขาถึงกับระบุอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ชนเผ่าในเขตนอร์ท วาซิริสถาน และ เซาท์ วาซิริสถาน คือจุดที่ต้องเน้นหนัก เฉกเช่นเดียวกับพื้นที่ต่างๆ ของเขตรัซมัก, ชาวัล, กูลัม ข่าน, และ อังกอร์ อาดา ตามแนวพรมแดนติดต่อกับอัฟกานิสถาน สำหรับในอีกฟากหนึ่งของชายแดนนั้น จังหวัดโคสต์ของอัฟกานิสถาน ได้รับการพิจารณาว่าน่าจะเป้าหมายที่จะถูกทิ้งระเบิดแบบปูพรม และถูกกองทัพแห่งชาติอัฟกานิสถานเปิดการรุกโจมตี
พลเอก แอชฟัค เปอร์เวซ คิอานี ผู้บัญชาการทหารปากีสถาน ได้รีบเรียกบรรดานักวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ระดับอาวุโสเข้ามาหารือโดยด่วน และนักวิเคราะห์เหล่านี้ชี้ว่าฝ่ายทหารจะต้องทำตามคำสั่งของรัฐบาลพลเรือนเท่านั้น อย่างไรก็ดี เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรีไซเอด ยูซุฟ ราซา กิลลานี เพิ่งประกาศว่าการตัดสินใจทั้งหลายทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร จะต้องกระทำโดยผู้บัญชาการทหาร สภาพเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เป็นลางดีเลยว่า ปากีสถานจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯอย่างชนิดเต็มอกเต็มใจ
แต่ถึงไม่ต้องคำนึงเลยว่ากองทัพปากีสถานจะมีความจริงใจแค่ไหนในการสู้รบปราบปรามพวกตอลิบาน ข้อเท็จจริงยังคงมีอยู่ว่า พวกตอลิบานนั้นเสมือนว่าได้ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจในแคว้นพรมแดนตะวันตกเฉียงเหนือ (North-West Frontier Province หรือ NWFP) ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับปากีสถานไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาได้สถาปนาการปกครองอันทารุณเหี้ยมโหดขึ้นในพื้นที่แถบนี้ โดยที่ขื่อแปของรัฐไร้อำนาจที่จะต่อสู้ต้านทาน ในทุกๆ เขต พวกตอลิบานได้คุมตัวบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยเอาไว้เป็นตัวประกัน เพื่อบีบคั้นให้ต้องกระทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา ในเรื่องให้นำเอาระเบียบกฎหมายแบบอิสลามมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เจ้าหน้าที่จำนวนมากทีเดียวถูกฆ่าตายเมื่อความประสงค์ของพวกตอลิบานมิได้รับการปฏิบัติตาม
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ สมาชิกระดับกลางและระดับล่างของกองกำลังรักษาความมั่นคงปลอดภัย อยู่ในสภาพที่ไม่ออกปฏิบัติหน้าที่แล้วในทางเป็นจริง หรือไม่ก็หันไปทำตามคำเรียกร้องของพวกตอลิบานตลอดทั้งแคว้น NWFP
สภาพเช่นนี้ทำให้รัฐบาลที่มีแนวทางไม่ยุ่งเกี่ยวกับศาสนาและค่อนข้างเป็นเสรีนิยมของแคว้นนี้ ซึ่งนำโดยพรรค อะวามิ เนชั่นแนล ปาร์ตี้ ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากก่อตั้ง “คณะกรรมการป้องกัน” ขึ้นในระดับเขต เพื่อจัดตั้งพลเรือนขึ้นมาต่อสู้ทัดทานการยึดอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จของพวกตอลิบาน
ข้ามพรมแดนเข้าไปในอัฟกานิสสถาน สถานการณ์ทำนองเดียวกันนี้ก็กำลังปรากฏขึ้นในจังหวัดกัซนี ซึ่งอยู่ประชิดกับเมืองหลวงคาบูล โดยนอกเหนือจากเขตที่เป็นศูนย์กลางของจังหวัดแล้ว พวกตอลิบานสามารถที่จะสั่งการได้ตามใจในพื้นที่ทุกๆ เขตทันทีที่ความมืดยามราตรีเข้าปกคลุม ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ปกครองระดับเขตตลอดจนตำรวจ ได้แต่ยอมปล่อยให้พวกตอลิบานมีเสรีภาพในการเคลื่อนไหว
ในจังหวัดคูนาร์และจังหวัดนูริสถาน พวกตอลิบานกำลังต่อสู้เพื่อให้มีฐานะครอบงำทำนองเดียวกันนี้ โดยที่ด่านตรวจรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ได้ถูกทอดทิ้งกันไปแล้ว ด้วยความหวาดกลัวพวกตอลิบาน
เมื่อวันจันทร์(14) ได้มีการประชุม “ชูรา” (สภา) ระดับสูงของอัลกออิดะห์ ที่ มิรัมชาห์ ในเขต นอร์ท วาซิริสถาน และมีข้อสรุปให้ส่งคำชี้แนะถึงสมาชิกทุกคนที่มีครอบครัว ให้ล่าถอยไปยังสถานที่ปลอดภัย เนื่องจากคาดหมายกันว่าสงครามอัฟกานิสถานกำลังจะแผ่กระจายเข้าไปในพื้นที่ชนเผ่าของปากีสถาน
ศึกสงครามที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่อัลกออิดะห์หรือพวกตอลิบานที่เป็นชาวปากีสถานเลย พวกเขาให้เหตุผลว่าถ้าหากกองกำลังพันธมิตรบุกเข้ามาในปากีสถานอย่างจริงจัง (ก่อนหน้านี้กองทหารพันธมิตรทำแค่ส่งเครื่องบินไร้คนขับแบบ “เพรเดเทอร์” เข้าจู่โจมในพื้นที่ของปากีสถานเท่านั้น) ปฏิกิริยาที่จะเกิดขึ้นในปากีสถาน แม้กระทั่งในหมู่พวกมีแนวคิดเสรีนิยม ก็คือจะเกิดความโกรธกริ้วกันอย่างรุนแรงมาก จนกระทั่งกองทัพปากีสถานไม่กล้าที่จะสานต่อด้วยการลงมือกระทำการของพวกเขาเองบ้าง และนี่ก็จะทำให้พวกนักรบมุสลิมมีเสรีภาพที่จะเปิดการปฏิบัติการเข้าไปในอัฟกานิสถานได้
ที่ประชุมชูราในวันจันทร์ดังกล่าว ยังชี้ให้เห็นว่ากำลังพลของพวกนักรบมุสลิมในพื้นที่นี้ กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นมามากที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐฯเข้ารุกรานอิรักเมื่อปี 2003 ทั้งนี้ พวกที่มาจากบรรดาประเทศมุสลิมทั้งหลาย ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน
ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าสำนักงานปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์ สามารถที่จะติดต่อกับเขาได้ทางอีเมล์ saleem_sharzad2002@yahoo.com
Militants ready for a war without borders
By Syed Saleem Shahzad
16/07/2008
กองทหารพันธมิตรที่นำโดยองค์การนาโต้คาดหมายเอาไว้แล้วว่ามันจะเป็นเช่นนั้น อัลกออิดะห์และพวกตอลิบานปากีสถานก็คาดหมายไว้เช่นกันว่ามันจะเป็นเช่นนั้น นั่นก็คือ อีกไม่นานสงครามในอัฟกานิสถานจะแผ่ลามเข้าไปในดินแดนของปากีสถาน วอชิงตันกำลังเชื่อมั่นในเรื่องที่ว่าทางการอิสลามาบัดจะให้ความช่วยเหลือกองทหารพันธมิตรด้วยการปฏิบัติการจากพื้นที่ชายแดนของตนเอง ทว่าบรรดานักรบมุสลิมกลับมีแนวความคิดเป็นอย่างอื่น
การาจี – ไม่ว่าจะเป็นการพูดเป็นนัยในทางให้ร้ายปากีสถานชนิดแทบไม่ปกปิดอำพรางอะไรเลย ภายหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีแบบคนร้ายฆ่าตัวตาย ต่อสถานเอกอัครราชทูตอินเดียในกรุงคาบูลเมื่อต้นเดือนนี้ ไปจนถึงการกล่าวหาอย่างโจ่งแจ้งของรัฐบาลอัฟกันว่าทางการอิสลามาบัดมีส่วนพัวพันกับการก่อความไม่สงบอย่างไม่มีหยุดยั้งของพวกตอลิบาน เหล่านี้ล้วนแต่แสดงให้เห็นว่าเกมแห่งการประณามกัน กำลังเคลื่อนเข้าสู่ช่วงระยะที่มีอันตรายยิ่ง นั่นก็คือ สงครามใหญ่ระดับภูมิภาคอาจจะปะทุขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่วัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานคณะเสนาธิการทหารผสมของสหรัฐฯ พลเรือเอก ไมก์ มุลเลน ได้ไปเยือนปากีสถานอย่างฉับพลัน โดยเขาได้ไปเปิดเผยต่อเหล่าผู้นำและนายทหารอาวุโสของปากีสถาน ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการเข้าถล่มโจมตีอย่างเฉียบขาดต่อเครือข่ายของพวกตอลิบานและอัลกออิดะห์ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในเขตพรมแดนระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน รวมทั้งเรื่องที่กองทหารพันธมิตรในอัฟกานิสถานจะไม่มีความลังเลใจเลยในการไล่ติดตามศัตรูจนรุกล้ำเข้ามาในปากีสถาน
มุลเลนเรียกร้องให้เหล่าผู้นำปากีสถาน แสดงบทบาทของพวกเขาจากพื้นที่ชายแดนของพวกเขาเอง เขาถึงกับระบุอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ชนเผ่าในเขตนอร์ท วาซิริสถาน และ เซาท์ วาซิริสถาน คือจุดที่ต้องเน้นหนัก เฉกเช่นเดียวกับพื้นที่ต่างๆ ของเขตรัซมัก, ชาวัล, กูลัม ข่าน, และ อังกอร์ อาดา ตามแนวพรมแดนติดต่อกับอัฟกานิสถาน สำหรับในอีกฟากหนึ่งของชายแดนนั้น จังหวัดโคสต์ของอัฟกานิสถาน ได้รับการพิจารณาว่าน่าจะเป้าหมายที่จะถูกทิ้งระเบิดแบบปูพรม และถูกกองทัพแห่งชาติอัฟกานิสถานเปิดการรุกโจมตี
พลเอก แอชฟัค เปอร์เวซ คิอานี ผู้บัญชาการทหารปากีสถาน ได้รีบเรียกบรรดานักวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ระดับอาวุโสเข้ามาหารือโดยด่วน และนักวิเคราะห์เหล่านี้ชี้ว่าฝ่ายทหารจะต้องทำตามคำสั่งของรัฐบาลพลเรือนเท่านั้น อย่างไรก็ดี เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรีไซเอด ยูซุฟ ราซา กิลลานี เพิ่งประกาศว่าการตัดสินใจทั้งหลายทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร จะต้องกระทำโดยผู้บัญชาการทหาร สภาพเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เป็นลางดีเลยว่า ปากีสถานจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯอย่างชนิดเต็มอกเต็มใจ
แต่ถึงไม่ต้องคำนึงเลยว่ากองทัพปากีสถานจะมีความจริงใจแค่ไหนในการสู้รบปราบปรามพวกตอลิบาน ข้อเท็จจริงยังคงมีอยู่ว่า พวกตอลิบานนั้นเสมือนว่าได้ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจในแคว้นพรมแดนตะวันตกเฉียงเหนือ (North-West Frontier Province หรือ NWFP) ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับปากีสถานไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาได้สถาปนาการปกครองอันทารุณเหี้ยมโหดขึ้นในพื้นที่แถบนี้ โดยที่ขื่อแปของรัฐไร้อำนาจที่จะต่อสู้ต้านทาน ในทุกๆ เขต พวกตอลิบานได้คุมตัวบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยเอาไว้เป็นตัวประกัน เพื่อบีบคั้นให้ต้องกระทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา ในเรื่องให้นำเอาระเบียบกฎหมายแบบอิสลามมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เจ้าหน้าที่จำนวนมากทีเดียวถูกฆ่าตายเมื่อความประสงค์ของพวกตอลิบานมิได้รับการปฏิบัติตาม
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ สมาชิกระดับกลางและระดับล่างของกองกำลังรักษาความมั่นคงปลอดภัย อยู่ในสภาพที่ไม่ออกปฏิบัติหน้าที่แล้วในทางเป็นจริง หรือไม่ก็หันไปทำตามคำเรียกร้องของพวกตอลิบานตลอดทั้งแคว้น NWFP
สภาพเช่นนี้ทำให้รัฐบาลที่มีแนวทางไม่ยุ่งเกี่ยวกับศาสนาและค่อนข้างเป็นเสรีนิยมของแคว้นนี้ ซึ่งนำโดยพรรค อะวามิ เนชั่นแนล ปาร์ตี้ ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากก่อตั้ง “คณะกรรมการป้องกัน” ขึ้นในระดับเขต เพื่อจัดตั้งพลเรือนขึ้นมาต่อสู้ทัดทานการยึดอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จของพวกตอลิบาน
ข้ามพรมแดนเข้าไปในอัฟกานิสสถาน สถานการณ์ทำนองเดียวกันนี้ก็กำลังปรากฏขึ้นในจังหวัดกัซนี ซึ่งอยู่ประชิดกับเมืองหลวงคาบูล โดยนอกเหนือจากเขตที่เป็นศูนย์กลางของจังหวัดแล้ว พวกตอลิบานสามารถที่จะสั่งการได้ตามใจในพื้นที่ทุกๆ เขตทันทีที่ความมืดยามราตรีเข้าปกคลุม ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ปกครองระดับเขตตลอดจนตำรวจ ได้แต่ยอมปล่อยให้พวกตอลิบานมีเสรีภาพในการเคลื่อนไหว
ในจังหวัดคูนาร์และจังหวัดนูริสถาน พวกตอลิบานกำลังต่อสู้เพื่อให้มีฐานะครอบงำทำนองเดียวกันนี้ โดยที่ด่านตรวจรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ได้ถูกทอดทิ้งกันไปแล้ว ด้วยความหวาดกลัวพวกตอลิบาน
เมื่อวันจันทร์(14) ได้มีการประชุม “ชูรา” (สภา) ระดับสูงของอัลกออิดะห์ ที่ มิรัมชาห์ ในเขต นอร์ท วาซิริสถาน และมีข้อสรุปให้ส่งคำชี้แนะถึงสมาชิกทุกคนที่มีครอบครัว ให้ล่าถอยไปยังสถานที่ปลอดภัย เนื่องจากคาดหมายกันว่าสงครามอัฟกานิสถานกำลังจะแผ่กระจายเข้าไปในพื้นที่ชนเผ่าของปากีสถาน
ศึกสงครามที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่อัลกออิดะห์หรือพวกตอลิบานที่เป็นชาวปากีสถานเลย พวกเขาให้เหตุผลว่าถ้าหากกองกำลังพันธมิตรบุกเข้ามาในปากีสถานอย่างจริงจัง (ก่อนหน้านี้กองทหารพันธมิตรทำแค่ส่งเครื่องบินไร้คนขับแบบ “เพรเดเทอร์” เข้าจู่โจมในพื้นที่ของปากีสถานเท่านั้น) ปฏิกิริยาที่จะเกิดขึ้นในปากีสถาน แม้กระทั่งในหมู่พวกมีแนวคิดเสรีนิยม ก็คือจะเกิดความโกรธกริ้วกันอย่างรุนแรงมาก จนกระทั่งกองทัพปากีสถานไม่กล้าที่จะสานต่อด้วยการลงมือกระทำการของพวกเขาเองบ้าง และนี่ก็จะทำให้พวกนักรบมุสลิมมีเสรีภาพที่จะเปิดการปฏิบัติการเข้าไปในอัฟกานิสถานได้
ที่ประชุมชูราในวันจันทร์ดังกล่าว ยังชี้ให้เห็นว่ากำลังพลของพวกนักรบมุสลิมในพื้นที่นี้ กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นมามากที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐฯเข้ารุกรานอิรักเมื่อปี 2003 ทั้งนี้ พวกที่มาจากบรรดาประเทศมุสลิมทั้งหลาย ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน
ไซเอด ซาลีม ชาห์ซาด เป็นหัวหน้าสำนักงานปากีสถานของเอเชียไทมส์ออนไลน์ สามารถที่จะติดต่อกับเขาได้ทางอีเมล์ saleem_sharzad2002@yahoo.com