xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำปากีฯหวิดเจอบึ้มถล่ม“แมริออท”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์ – กระทรวงมหาดไทยปากีสถานเผยวานนี้ (22) ว่า ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของประเทศ มีกำหนดการรับประทานอาหารเย็นที่โรงแรมแมริออทในช่วงเวลาที่เกิดระเบิดรถบรรทุกฆ่าตัวตายเมื่อคืนวันเสาร์(20) ทว่ามีการเปลี่ยนกำหนดการในนาทีสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ
การระเบิดครั้งนี้นับว่าร้ายแรงที่สุดในกรุงอิสลามาบัด และมีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวิดีโอที่จับภาพเหตุการณ์ขณะที่มือระเบิดขับรถบรรทุกนำระเบิดนำหนัก 600 กิโลกรัม พยายามฝ่าแนวกั้นที่ประตูทางเข้าโรงแรมแมริออทแต่ไม่สำเร็จ ทว่าก็ได้จุดชนวนระเบิดลูกเล็กขึ้นภายในห้องโดยสารของรถ ก่อนที่ระเบิดมหึมาที่บรรทุกมาจะบึ้มตาม จนทำให้โรงแรมเกิดเพลิงไหม้ และมีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 60 คน บาดเจ็บอีกกว่า 260 คน
“ประธานสมัชชาแห่งชาติ(สภาผู้แทนราษฎร)ได้จัดเตรียมงานเลี้ยงอาหารค่ำให้กับบรรดาผู้นำประเทศ ทั้งท่านประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหลายที่โรงแรมแมริออทในวันเกิดเหตุ” เรห์แมน มาลิค รักษาการรัฐมนตรีมหาดไทยของปากีสถานเผย
“แต่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนสถานที่ไปยังบ้านของนายกรัฐมนตรีแทน แผนการที่แมริออทจึงไม่สำเร็จ และผู้นำทั้งหมดของเราก็ปลอดภัย” มาลิคเสริม
ส่วนโรงแรมแมริออท ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับรัฐสภา ในขณะเกิดระเบิดนั้น ได้จัดเตรียมต้อนรับผู้มารับประทานอาหารหลังพ้นช่วงเวลาถือศีลอดตอนกลางวัน ตามปกติของช่วงเทศกาลรอมฎอน
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนของปากีสถานกำลังสืบหาแหล่งกบดานของผู้ก่อเหตุในกรุงอิสลามาบัด ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มอัลกออิดะห์หรือกองกำลังตอลิบานที่อยู่บริเวณพื้นที่ชายแดนติดกับอัฟกานิสถาน แม้ว่าจะยังไม่มีกลุ่มใดออกมายอมรับว่าเป็นการลงมือของตนก็ตาม
ด้านหัวหน้าตำรวจอิสลามาบัดกล่าวว่ายังไม่มีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการระเบิดแต่อย่างใด และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสืบสวนคดีนี้
ทั้งนี้ ในกลุ่มผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาตินอกจากเอกอัครราชทูตสาธารณัฐเช็กแล้ว ยังมีชาวสตรีชาวเวียดนาม 1 คน และทหารสหรัฐฯ 2 นายที่ประจำอยู่ ณ สถานทูตสหรัฐฯ ในปากีสถาน นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ หายไปอีก 1 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความปลอดภัยของเดนมาร์กรายหนึ่งที่ปฏิบัติงานอยู่ในกรุงอิสลามาบัดก็หายตัวไป และคาดว่าอาจเสียชีวิตเช่นกัน

**บริติช แอร์เวส์ระงับเที่ยวบิน**
ด้านโฆษกบริติช แอร์เวย์ส สายการบินแห่งชาติของอังกฤษ แถลงวานนี้ (22) ว่าสายการบินได้ระงับเที่ยวบินสู่ปากีสถาน เพราะยังวิตกเรื่องความปลอดภัยหลังจากที่เกิดระเบิดรถบรรทุกฆ่าตัวตายกลางกรุงอิสลามาบัด โดยเป็นการสั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่มีอยู่ด้วยกัน 6 เที่ยวต่อสัปดาห์
“สำนักงานใหญ่ของเรากำลังทบทวนเรื่องสถานการณ์ความปลอดภัย” โซฮาอิล เรห์แมน โฆษกของบริติช แอร์เวย์สกล่าว
เหตุระเบิดครั้งนี้ยังทำให้รัฐบาลปากีสถานเองต้องหันมาทบทวนเรื่องการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ และปฏิบัติการทางทหารต่อต้านกองกำลังอิสลามิสต์ ซึ่งชาวปากีสถานจำนวนมากเห็นว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดความรุนแรง
ขณะนี้ กองทัพปากีสถานกำลังพยายามรุกเข้าโจมตีกองกำลังผู้ก่อการร้ายในเขตบาจาอูร์ตรงชายแดนอัฟกานิสถาน ในขณะที่สหรัฐฯ ก็ได้เพิ่มการโจมตีกองกำลังดังกล่าว โดยใช้กำลังจากฟากอัฟกานิสถานล่วงล้ำแนวชายแดนเข้าไปในปากีสถานด้วย จนสร้างความขุ่นเคืองให้กับกองทัพปากีสถาน
วานนี้เองมีรายงานว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงของปากีสถาน ได้เปิดฉากยิงใส่เฮลิคอปเตอร์กันชิปของสหรัฐฯ 2 ลำ ถึง 2 ระลอก ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวบินล่วงล้ำเข้าน่านฟ้าปากีสถานในเขตชนเผ่าเมื่อวันอาทิตย์(21)
ทางด้านรัฐบาลปากีสถานระบุว่านับตั้งแต่เปิดการสู้รบที่บาจาอูร์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ฝ่ายศัตรูถูกกำจัดไปกว่า 600 คน
อย่างไรก็ตาม ในฟากของนักการเมืองฝ่ายค้านอาวุโส รวมทั้งนักวิเคราะห์การเมือง กลับเห็นว่าการรุกหนักไม่ได้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด และเสนอว่ารัฐบาลควรทบทวนนโยบายเสียใหม่มากกว่า
“เราใช้กำลังไปมากพอแล้ว แต่เราทำไปเพื่ออะไรกันแน่ เพื่อให้มีการก่อการร้ายมากขึ้นยังงั้นหรือ” ซาฟาร์ อิคบาล จักรา รองประธานพรรคของอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ตั้งคำถาม

**จับกงสุลใหญ่อัฟกานิสถาน**

อนึ่ง วานนี้เช่นกัน ได้มีมือปืนกลุ่มหนึ่งขับรถไล่ตามพาหนะของ อับดุล กาลิก ฟาราฮี กงสุลใหญ่อัฟกานิสถานประจำเมืองเปชาวาร์ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญบริเวณใกล้ชายแดนติดอัฟกานิสถาน บังคับให้รถของนักการทูตผู้นี้ต้องขับเข้าข้างทาง จากนั้นมือปืนได้ยิงคนขับรถเสียชีวิต และจับกุมนักการทูตผู้นี้ไป
ทั้งนี้ อับดุล กาลิก ฟาราฮี กำลังจะเข้าดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตอัฟกานิสถานประจำปากีสถานอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น