เอเอฟพี - รัฐบาลมาเลเซียเตรียมอัดฉีดเงิน 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 5 หมื่นล้านบาทเพื่อเข้าพยุงตลาดหุ้นที่กำลังย่ำแย่ พร้อมกับปรับลดตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจปี 2009 เหตุเพราะผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน
นาจิบ ราซัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซีย แถลงวานนี้ (20) ว่า รัฐบาลยังอาจต้องทบทวนตัวเลขการขาดดุลงบประมาณปี 2008 และ 2009 ใหม่หมด พร้อมทั้งปรับลดขนาดโครงการสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน "ที่มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจำกัด" ทั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ
"เราเคยคาดการณ์ว่าจีดีพีจะเติบโต 5.4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2009 แต่ด้วยสภาพแวดทางเศรษฐกิจล้อมที่เสื่อมทรามลงอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขคาดการณ์สำหรับปี 2009 ก็อาจจำเป็นต้องปรับลดลง" นาจิบแสดงปาฐกถาในที่ประชุมแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์
นอกจากนั้น สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซีย ยังได้รายงานโดยอ้างถ้อยแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในวันเดียวกัน ยืนยันว่า เศรษฐกิจมาเลเซียจะไม่ก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยเหมือนอย่างเช่นสหรัฐฯ อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16) องค์กรมันสมองชั้นนำแห่งหนึ่งของมาเลเซีย ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2009 จาก 5.0 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 3.4 เปอร์เซ็นต์พร้อมทั้งแถลงเตือนด้วยว่าเศรษฐกิจมาเลเซียอาจเผชิญกับภาวะถดถอยตามสหรัฐฯ ไปด้วย
นาจิบ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลจะเพิ่มเงินกองทุนในบริษัท แวลลูแค็ป เอสดีเอ็น.บีเอชดี.เป็น 2 เท่าตัว โดยอัดฉีดเงินเพิ่มเข้าไปอีก 5,000 ล้านริงกิต หรือ ประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์
บริษัทดังกล่าวรัฐบาลก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2003 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการซื้อหุ้นพื้นฐานดีแต่มีราคาต่ำในตลาดหุ้น
"ตลาดหุ้นของเราถูกกระทบด้วยอารมณ์ชักจูงจากตลาดอื่นๆ ผมอยากเน้นย้ำว่าเราไม่ได้มีปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินแต่อย่างใด เราจึงไม่ควรสร้างภาวะวิกฤตขึ้นมาเสียเอง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียกล่าว
นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นกรุงกัวลาลัมเปอร์ เชื่อว่า ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลครั้งนี้ จะช่วยทำให้ราคาหุ้นในตลาดกระเตื้องขึ้น หลังจากดัชนีราคาหุ้นตกต่ำลงไปแล้วถึง 37 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
นาจิบ ซึ่งได้รับการวางตัวให้ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเดือนมีนาคมปีหน้า กล่าวว่า รัฐบาลจะแจ้งตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจใหม่สำหรับปี 2009 พร้อมทั้งรายละเอียดแผนงบประมาณใหม่ต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้
เขาบอกว่า รัฐบาลจะไม่ตัดลดยอดงบประมาณรายจ่ายโดยรวม เพียงแต่ว่าโครงการใหญ่ๆ บางโครงการอาจจะต้องเลื่อนไปทำกันในปีต่อๆ ไป ขณะที่โครงการซึ่งวางแผนไว้สำหรับปี 2009 จะยังคงเดินหน้า
"ถึงแม้เรามองเห็นกันว่าความปั่นป่วนผันผวนทางการเงินที่ถือเป็นภาวะช็อกจากภายนอกประเทศนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการรับมือและหามาตรการแก้ไขในระยะสั้น ทว่าเรื่องนี้ไม่ควรสร้างความเสียหายให้แก่ความจำเป็นของการพัฒนาประเทศในระยะยาว" เขากล่าว
รัฐมนตรีคลังมาเลเซีย บอกด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาดูลู่ทางเรื่องการเปิดเสรีภาคบริการ ซึ่งถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งจะศึกษาทบทวนแนวทางปฏิบัติทางด้านการลงทุนของต่างประเทศ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากภายนอก โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์
