เอเจนซี - อิหร่านออกมาประณามสหรัฐฯ ฐานเป็นต้นตอของวิกฤตการเงินที่ลุกลามทั่วโลก โดยชี้ว่า ลักษณะความเป็น “เจ้าโลก” ทางเศรษฐกิจของอเมริกัน ทำให้ประเทศอื่นๆ ติดร่างแห่ไปด้วย
มานูชีหร์ มอตตากี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวระหว่างเข้าร่วมการประชุมที่คาซักสถานวันนี้ (16) ว่า ถึงเวลาที่ต้องสร้าง “ระบบการเงินสากลที่ยุติธรรม” เพื่อควบคุมผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในตลาดการเงินโลก
“วิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ส่งผลกระทบทันทีต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ” มอตตากี กล่าว
“อิหร่านเชื่อว่า วิกฤตครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อตั้งท่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือชาติอื่นๆ”
อิหร่านเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐฯ และชาติตะวันตกมาตลอด จากกรณีความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งเตหะรานยืนกรานว่า ดำเนินการด้วยวัตถุประสงค์ด้านสันติภาพ ขณะที่มหาอำนาจตะวันตกหวาดระแวงว่า อิหร่านต้องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
อิหร่าน ซึ่งเป็นชาติสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวด้วยว่า อิหร่านจะรอดพ้นวิกฤตทางการเงินครั้งนี้ได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ เพราะเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างอิสระมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่การปฏิวัติอิหร่านในปี 1979
ด้านนักวิเคราะห์หลายคนไม่เห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว เนื่องจากอิหร่านไม่สามารถยืนหยัดอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เพราะอิหร่านยังคงต้องพึ่งพารายได้หลักจากการขายน้ำมัน
“น่าเสียดายที่มีประเทศเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในโลก ซึ่งยังคงมีรายได้ไหลมาเทมา ขณะที่ส่วนอื่นๆ ทั่วโลกกำลังขมขื่นกับวิกฤตดังกล่าว” มอตตากี กล่าว
“เราเชื่อว่า มีทางออกเพียงวิธีเดียวเท่านั้น นั่นคือ การก่อตั้งระบบการเงินโลกด้วยความยุติธรรม”