xs
xsm
sm
md
lg

“เฮียชู” ดังไกลสื่อนอกเจาะลึกเจ้าพ่อเซ็กซ์หวังเป็นผู้ว่าฯ ตีข่าวทำร้ายพิธีกรช่อง 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซี - สื่อต่างประเทศเกาะติดศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เจาะลึกประวัติ “ชูวิทย์” อดีตเจ้าพ่อธุรกิจน้ำกาม ผู้หวังเข้ามาปัดกวาดเมืองหลวง พร้อมรายงานถึงเหตุวิวาทกับพิธีกรรายการข่าวช่อง 3 จนเป็นข่าวใหญ่โต และอ้างนักวิเคราะห์เคลือบแคลงต่อโอกาสได้รับชัยชนะ เพราะชาวเมืองหลวงเกรงเกิดความขัดแย้งมากขึ้น

สำนักข่าวเอพีรายงานพิเศษ พาดหัวว่า “Bangkok's former sex tycoon wants to be governor” (อดีตเจ้าพ่อเซ็กซ์ของกรุงเทพฯ ต้องการเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด) โดย แซม ดอลนิค ระบุในรายละเอียดว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ต้องการเข้ามาปัดกวาดเมืองที่เขาร่ำรวยขึ้นมาจากอาณาจักรเนื้อหนัง แต่หลายสัปดาห์ที่เดินออกหาเสียงและปราศรัย ทำให้เขาต้องละทิ้งน้องๆ หนูๆ สาวอ่างอบนวดไปหลายวัน

เอพี อ้างคำสัมภาษณ์ของนายชูวิทย์ที่กล่าวว่า “การเมืองสกปรกเหลือเกิน” ชูวิทย์ถอนหายใจ “ผมต้องการทำมากกว่านั่งเฉยๆ อยู่ในไนต์คลับ ล้อมรอบด้วยผู้หญิง สูบซิการ์ ดื่มบรั่นดี แชมเปญ นั่นถือว่าเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ”

สื่อต่างชาติรายนี้ บอกต่อว่า แต่ชีวิตแบบนั้นยุติแล้ว ขอบคุณเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ที่ทำให้เขากลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ตอนนี้ชูวิทย์คือผู้สมัครม้ามืดที่ลงชิงชัยในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ควักกระเป๋าตนเองรณรงค์หาเสียงในสิ่งที่เขาเห็นว่าการเมืองไทยหลอกลวงและพูดจาโป้ปด

เอพี ระบุว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (2) 3 วันก่อนหน้าการเลือกตั้ง ชูวิทย์ได้ไปให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวช่อง 3 ในสตูดิโอ และเกิดเหตุวิวาทกันหลังเทปสิ้นสุดลง โดยชูวิทย์ศอกเข้าที่หน้า และเตะเขาหลังจากลงไปกองกับพื้น ซึ่งในเรื่องนี้ ชูวิทย์บอกว่า พิธีกรทำให้เขาดูแย่ และถามคำถามที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้า

“ผู้ชายอย่างผม คุณฆ่าได้แต่หยามไม่ได้” เขาแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเกิดเหตุ “ผมขออภัยในสิ่งที่ผมทำ...แต่ผมต้องทำ ผมไม่ได้ทำอะไรแบบนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว”

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานต่อว่า ก่อนหน้าที่ชูวิทย์จะกลายมาเป็นผู้ทำสงครามต่อต้านคอร์รัปชัน เขามีพนักงานหญิง 1,300 คน ในสถานอวบอบนวด วิคตอเรีย เอ็มมานูเอล และโฮโนลูลู ทั้งนี้ สถานบริการทางเพศคือสิ่งผิดกฎหมายในไทย แต่เปิดบริการกันอย่างแพร่หลาย และน้อยครั้งที่ถูกดำเนินคดี

เขากลายเป็นฮีโร่ ในปี 2004 เมื่อเขาออกมาเปิดโปงเรื่องราวคอร์รัปชันในแวดวงตำรวจ ซึ่งไม่เป็นที่ชื่นชอบ และแฉรายชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เขาจ่ายสินบนให้ “ทั้งนาฬิกาโรเล็กซ์ บริการฟรี และเงินใส่ในถุงขยะ เพราะมันมากเกินไปที่จะใส่ในซอง”

ชูวิทย์ เล่าต่อว่า เขาสามารถทำเงินได้ 1 ล้านบาท ในแต่ละคืนจากธุรกิจอาบอบนวด และเขาเปิดเผยตัวต่อสาธารณชนเพียงเพราะว่าตำรวจไม่สามารถปกป้องเขา เมื่อเขาต้องเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย

เอพี บอกต่อว่า ชูวิทย์ขายธุรกิจของเขา และได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งที่ผ่านมา และเขาบอกว่าครั้งนี้จะเป็นการลงสมัครผู้ว่าฯ หนสุดท้ายของเขา

นักวิเคราะห์ชมเชยในท่าทางองอาจของเขา แต่เคลือบแคลงโอกาสชนะของเขา ในขณะที่ประเทศต้องการฟื้นฟูจากวิกฤตทางการเมืองอันอลหม่าน

“การหาเสียงดุดันของชูวิทย์ดึงดูดสายตาของสาธารณชน แต่ผมไม่แน่ใจว่าผู้มีสิทธิออกเสียงอยากจะเห็นความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่” เอพี อ้างคำสัมภาษณ์ของ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รอบย่านธุรกิจหลักของกรุงเทพฯ ผู้มีสิทธิออกเสียงบางคนบอกว่า ไม่ชอบชูวิทย์ เพราะข้อโต้เถียงในอดีต แต่อีกส่วนบอกว่า เขาเหมาะสมสำหรับการเมืองอันสกปรกของไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น