เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (1) ผันผวนเล็กน้อยกลับมาปิดตลาดลดลงกว่า 2 ดอลลาร์ หลังข่าวสต๊อกน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ขณะที่ตลาดกำลังจดจ่ออยู่กับแผนกอบกู้ภาคการเงินฉบับใหม่ซึ่งสภาสูงจะลงมติกันในช่วงค่ำวันเดียวกัน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ตกลง 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ดิ่งลง 2.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (ดีโออี) เปิดเผยเมื่อวันพุธ ว่า สต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล ช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 กันยายน สร้างความประหลาดให้ตลาดซึ่งคาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันอาจลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยังบอกว่า สต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล
ไมค์ ฟิตซ์พาทริค ณ เอ็มเอฟโกลบอล กล่าวว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่มีความเป็นไปได้สำหรับราคาน้ำมันที่ดิ่งลง นั่นคือ “คงไม่มีเหตุการณ์เซอร์ไพรส์อีกครั้งจาก ส.ส.สหรัฐฯ”
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เตรียมลงมติถัดจากนี้ในวันพุธ บนแผนกอบกู้ภาคการเงินเวอร์ชันใหม่ หลังจากแผนซื้อหนี้เสียจากธนาคาร 7 แสนล้านดอลลาร์ ถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตีตกไปในช่วงต้นสัปดาห์
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ความล่มสลายของแผนดังกล่าว ก่อความวิตกกังวลสูงขึ้นต่อความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชาติผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกที่อ่อนแออยู่ก่อนแล้ว
นิมิต คามาร์ นักวิเคราะห์จากซัคเดน กล่าวว่า แผนใหม่อาจไม่สามารถเยียวยาสถานการณ์ในระยะสั้น “มันไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ในช่วงข้ามคืน ขณะเดียวกัน มันคงจะต้องใช้เวลาสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกจากผลกระทบของตลาดสินเชื่อ”
“ในความเห็นของเรา เราเชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจอาจเสื่อมถอยต่อไป ขณะที่ความยุ่งเหยิงซึ่งมีเหตุมาจากวิกฤตทางการเงินจะไหลซึมไปสู่เศรษฐกิจกว้างขวางขึ้น เพราะฉะนั้นมันจึงต้องใช้เวลาก่อนที่ดีมานด์พลังงานจะขยับขึ้นอีกครั้งและด้วยหลักฐานจากสถิติที่ได้เห็นเมื่อเร็วๆนี้ มันปรากฏว่า ดีมานด์ในภายภาคหน้ายังคงเสื่อมลง” เขากล่าว
