ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ(1ต.ค.) ผันผวนกลับมาปิดตลาดลดลงกว่า 2 ดอลลาร์ หลังข่าวสต๊อกน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ขณะที่ตลาดกำลังจดจ่ออยู่กับแผนกอบกู้ภาคการเงินฉบับใหม่ซึ่งสภาสูงจะลงมติกันในช่วงค่ำวันเดียวกัน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ตกลง 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ดิ่งลง 2.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ(ดีโออี) เปิดเผยเมื่อวันพุธ ว่าสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล ช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 กันยายน สร้างความประหลาดให้ตลาดซึ่งคาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันอาจลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยังบอกว่าสต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล
ไมค์ ฟิตซ์พาทริค ณ เอ็มเอฟโกลบอล กล่าวว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่มีความเป็นไปได้สำหรับราคาน้ำมันที่ดิ่งลงนั่นคือ "คงไม่มีเหตุการณ์เซอร์ไพรส์อีกครั้งจาก ส.ส.สหรัฐฯ"
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ตกลง 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ดิ่งลง 2.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ(ดีโออี) เปิดเผยเมื่อวันพุธ ว่าสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล ช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 กันยายน สร้างความประหลาดให้ตลาดซึ่งคาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันอาจลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยังบอกว่าสต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล
ไมค์ ฟิตซ์พาทริค ณ เอ็มเอฟโกลบอล กล่าวว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่มีความเป็นไปได้สำหรับราคาน้ำมันที่ดิ่งลงนั่นคือ "คงไม่มีเหตุการณ์เซอร์ไพรส์อีกครั้งจาก ส.ส.สหรัฐฯ"