เอเอฟพี - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (29) โหวตล้มแผนซื้อหนี้เสียจากธนาคารมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อกอบกู้ช่วยชีวิตระบบการเงินวอลล์สตรีท โยนความพยายามสยบวิกฤตทางการเงินของอเมริกาเข้าสู่ความยุ่งเหยิง
ผลคะแนนโหวต 228-205 เสียง ทำให้ร่างกฏหมายฉบับนี้ตกไป หลังจาก ส.ส.รีพับลิกันส่วนมากเพิกเฉยต่อคำร้องขอของผู้นำของเขาเอง และโหวตต่อต้าน ขณะที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ของเดโมแครตกลับโหวตเห็นชอบกับแผนดังกล่าว
หุ้นในตลาดวอลล์สตรีทร่วงลง 700 จุด ขณะที่ร่างกฎหมายส่อแววว่าอาจถูกปฏิเสธ และจากนั้นได้ฟื้นตัวกลับมาราว 200 จุด หลังจากการลงมติสิ้นสุดลง ก่อนปิดตลาดลดลง 603 จุดหรือ 5.42 เปอร์เซ็นต์
ด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ร่วงลง 6.92 เปอร์เซนต์หรือ 777.68 จุด ปิดที่ 10,365.45 จุด นับเป็นการร่วงภายในวันเดียวซึ่งรุนแรงมากที่สุดตลอดกาล หลังเคยดิ่ง 684 จุดเมื่อวันที่ 17 กันยายน ขานรับเหตุโจมตี 9/11
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าก้าวย่างของวิกฤตนี้จะเป็นไปในทิศทางใด หรือแกนนำพรรคเดโมแครตกับรีพับลิกันจะสามารถเปลี่ยนมุมมองของ ส.ส.ผ่านการลงมติครั้งที่ 2 ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นวันเริ่มต้นเทศกาลสำคัญของชาวยิวซึ่งเริ่มต้นช่วงพระอาทิตย์ตกในวันจันทร์ (29) หมายถึงว่า ส.ส.จำนวนมากเตรียมเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของพวกเขา
ก่อนหน้านี้ สภานิติบัญญัติสหรัฐฯ บรรลุร่างกฎหมายที่จัดสรรเงิน 250,000 ล้านดอลลาร์ให้รัฐบาล เพื่อซื้อหนี้เสียจากกองทุนเงินบำนาญ รัฐบาลท้องถิ่น และธนาคารเล็กๆ ที่ให้บริการแก่ครอบครัวรายได้ต่ำ และยังให้อำนาจประธานาธิบดีอนุมัติเงินได้อีก 100,000 ล้านดอลลาร์
ร่างกฎหมายนี้ได้ให้อำนาจรัฐสภามีสิทธิยับยั้งการซื้อเกินวงเงินกำหนด และกำหนดเพดานการซื้อสูงสุดไว้ที่ 700,000 ล้านดอลลาร์ โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ใช้แผนนี้ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการ ซึ่งรวมทั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด รัฐมนตรีคลัง และคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
ในการอภิปรายอย่างเผ็ดร้อนก่อนสภาผู้แทนฯ จะลงมติ ได้มีการตำหนิรัฐบาลของประธานาธิบดีบุช ที่ออกมาขู่ว่าระบบการเงินของอเมริกาอาจล่มสลายหากสภาผู้แทนฯ ไม่ผ่านร่างกฎหมายนี้
ไมค์ เพนซ์ ส.ส.จากอินดีแอนา เตือนว่า แผนซื้อหนี้เสียจากธนาคารสวนทางกับหลักการของรัฐบาลสหรัฐฯ “เสรีภาพทางเศรษฐกิจหมายความได้ทั้งเสรีภาพที่ประสบความสำเร็จและเสรีภาพอันล้มเหลว” เพนซ์พาดพิงถึงกรณีการใช้อำนาจและทรัพย์สินของรัฐบาลเข้าแทรกแซงตลาดเสรีด้วยการซื้อหนี้เสีย
ด้าน ลีนน์ วูลซีย์ ส.ส.จากเดโมแครต หนึ่งในผู้โหวตต้าน แสดงความข้องใจว่า ทำไมผู้เสียภาษีต้องถูกร้องขอให้จ่ายเงินสำหรับความไร้ความรับผิดชอบของบริษัทการเงินชั้นนำของอเมริกา “ทำไมวอลล์สตรีทไม่จ่ายเงินสำหรับความยุ่งเหยิงที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง”
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีบุชประกาศจะเดินหน้าต่อไปในความพยายามแก้ปัญหาวิกฤตในระบบการเงินสหรัฐฯ หลังจากสภาผู้แทนฯ สร้างความผิดหวังและแปลกใจด้วยการคว่ำแพ็กเกจกอบกู้เศรษฐกิจนี้
นางแนนซี เปโรซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครต ประกาศว่า รับไม่ได้ที่สภาผู้แทนฯ ปฏิเสธแพกเกจนี้ และจะเดินหน้าผลักดันต่อไปเพื่อให้ผ่านสภาคองเกรสในที่สุด
ขณะที่บารัค โอบามา ตัวแทนพรรคเดโมแครตไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นในระหว่างการหาเสียงที่รัฐโคโลราโดว่า แพ็กเกจนี้จะผ่านการรับรองได้ในที่สุด เพราะผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างเห็นพ้องให้การสนับสนุน แต่สมาชิกบางส่วนของพรรคยังไม่ยอมรับ ขณะที่จอห์น แมคเคน ของรีพับลิกันเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งผลักดันในเรื่องนี้โดยเร็ว